ในทุก ๆ วันของการใช้ชีวิต ความเครียด เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ความเครียดมีข้อเสียอย่างเดียวจริงหรือเปล่า? แล้วถ้าเราปล่อยให้ความเครียดสะสมไปนาน ๆ จะเป็นอะไรไหม?
มาจัดการความเครียดกันเถอะ
ความเครียด คืออะไร?
ความเครียดเป็นปฏิกิริยาปกติของมนุษย์ ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมหรือแรงกดดันต่าง ๆ ที่เข้ามา ซึ่งการตอบสนองอาจจะออกไปได้ทั้งทางกายและทางจิตใจ
มนุษย์มีความเครียดเป็นเรื่องปกติ ไม่งั้นเราจะนิ่งเฉย เวลาที่เรารับรู้ถึงสิ่งที่เข้ามา สิ่งนั้นจะส่งเข้าไปที่สมอง สมองจะส่งสัญญาณประสาท
ส่งสารสื่อประสาทออกมา สารพวกนั้นจะมีผลต่อร่างกาย ดังนั้นเวลาเครียดจะสังเกตได้ว่า ทางกายจะมีความรู้สึกบางอย่าง ทางจิตใจจะมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น
ความเครียด มาจากอะไรได้บ้าง?
อะไรก็ได้ที่ทำให้เรารับรู้ว่าเราต้องโฟกัส ต้องให้สมาธิ หรือมากระทบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ
เช่น ต้องทำงานบางอย่างให้เสร็จ หรือ เป็นเรื่องใหญ่ ๆ เช่น ต้องเอาตัวรอดจากบางสิ่งบางอย่าง
ความเครียด มีแบ่งเป็นระดับไหม?
แบ่งได้หลายแบบ แต่ถ้าเอาแบบง่าย ๆ แบ่งเป็น เครียดน้อย เครียดปานกลาง เครียดมาก และเครียดมากที่สุด
ถ้าเครียดน้อยจะเป็นความเครียดในระดับที่เจอได้ในชีวิตประจำวัน อันนี้เป็นความเครียดที่ดี เพราะทำให้เรามีแรงกระตุ้นในการขับเคลื่อนชีวิตและการงาน
แต่ถ้าเริ่มมีเครียดปานกลาง อาจจะมีความเครียดจากการที่มีสิ่งกระทบบางอย่างแล้วแก้ไขไม่ได้ง่าย ๆ ตรงนี้อาจต้องมานั่งดูและรู้ตัวว่าเรากำลังเครียด
แล้วหาทางที่จะหาทางคลายความเครียดลง แต่ยังเป็นอะไรที่ยังพอจัดการเองได้ แต่ถ้าเครียดมาก จะเริ่มต้องระวัง
เพราะว่าอาจจะเกิดจากสิ่งที่มากระทบแล้วจัดการไม่ได้ หรือเกิดจากสุขภาพร่างกายที่ไม่พร้อม ทำให้เป็นความเครียดที่จัดการยาก
ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้ความสามารถในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ลดลง
อันนี้ถ้ารู้ตัวว่ามีความเครียดนี้อาจจะต้องเริ่มขอความช่วยเหลือ ปรึกษาคนใกล้ตัว ปรึกษาคนที่ไว้ใจได้ ไปหากิจกรรมเพื่อลดความเครียด
อันสุดท้ายคือเครียดมากที่สุด อันนี้จะเกิดจากเรื่องที่ใหญ่จริง ๆ กระทบกระเทือนชีวิต หรือสะสมมานานจนเข้าสู่จุดที่เครียดที่สุด
อันนี้จัดการไม่ได้ ถึงขั้นเริ่มส่งผลเสียบางอย่างต่อร่างกายและจิตใจมาก อันนี้ปรึกษาคนใกล้ตัว ถ้ายังหาทางออกไม่ได้ แนะนำเลยว่าต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ไม่เคยพบแพทย์ ดึงความกล้าเพื่อไปพบแพทย์ยังไง?
คนที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ โดยพื้นฐานเขามีความพร้อมที่จะรับฟังและมีจิตใจที่ดีอยู่แล้ว ดังนั้นขอใช้คำว่า ไม่ต้องกลัว เพราะผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้พร้อมฟัง
แต่บางคนอดกลัวไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้ชินกับการที่จะไปคุยกับจิตแพทย์ นักจิตวิทยา ฟังดูแอบน่ากลัว
ถามว่าทำยังไงให้กล้า เริ่มจากบอกตัวเองก่อนว่าคนกลุ่มนี้ไม่น่ากลัว ถ้าไม่ได้ผล บอกตัวเองว่าที่เราเครียดอยู่ตอนนี้มันเหนื่อยมากไหม? มันไหวไหม?
ถ้าเหนื่อยมากหรือไม่ไหว บอกตัวเองว่าบางทีเราอาจจะต้องเผชิญหน้ากับความกลัวเพื่อไปเจอคนที่จะช่วยเราได้ อาจจะทำให้เรามีแรงฮึดที่จะเดินเข้าไปในครั้งแรกมากขึ้น
ความเครียด มีข้อดีอะไรบ้าง?
ข้อดีเยอะนะ ต้องบอกแบบนี้ ถ้าโลกนี้ไม่มีความเครียดเลย ทุกอย่างชิลล์เกินไปหมด คนจะทำงานไม่เสร็จ คนจะอายุสั้นลง
เพราะว่าความเครียดเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันหรือสิ่งเร้า เพื่อให้เราทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นถ้าหากว่าเราไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าตามเหมาะสม
เราอาจจะเอาตัวรอดได้ยากขึ้น งานไม่เสร็จ อะไรบางอย่างไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นความเครียดแบบน้อย ๆ แบบจัดการได้
แบบพอเป็นแรงขับ ถือว่าเป็นของดี แต่ถ้าเกิดว่ามากเกินไป อาจจะกลายเป็นตัวที่วกกลับมาทำให้เราจัดการได้ยากขึ้น เพราะกายไม่พร้อมใจไม่พร้อมก็เคลียร์ปัญหายาก
สะสม ความเครียด จัดการไม่ได้ จะส่งผลยังไงบ้าง?
ความเครียดส่งผลต่อทั้งกายทั้งใจได้ ทางใจคือเราอาจจะมีความสุขลดลง ไม่สามารถสุขใจได้แบบเดิม ทุกข์ง่าย
ในแง่ของความคิด บางทีเครียด ๆ จะคิดอะไรไม่ออก และในทางกาย ความเครียดมีผลต่อสารสื่อประสาท มีผลต่อฮอร์โมน
ดังนั้นพวกนี้ที่เป็นตัวขับเคลื่อนร่างกาย จะมีอาการได้มาก บางคนใจเต้น ใจสั่น รู้สึกกระวนกระวาย นอนไม่หลับ ร่างกายอ่อนแอลง
ไปหาหมอได้ไหม? ไปหาหมออะไร?
ถ้ารู้ตัวว่ามีความเครียดและจัดการไม่ได้ ถ้าถามว่าหมอที่มีความเชี่ยวชาญในเชิงการแพทย์จะเป็นจิตแพทย์นี่แหละ จิตแพทย์จะดูเรื่อของจิตใจ มาปรึกษาได้เลย
ไม่ต้องมีเรื่องใหญ่ แค่บอกว่าเครียดหรือมีอาการอาจจะเดินเข้ามาบอกได้เลย เช่น นอนไม่หลับ มึน ๆ คิดอะไรไม่ออก
เดี๋ยวเราจะค่อย ๆ ตามไปดูว่าความเครียดอยู่ตรงไหน และจะแก้ไขปัญหายังไง หรืออาจจะช่วยหาเทคนิคที่จะผ่อนคลายความเครียดที่เหมาะสมให้
การทำงานของจิตแพทย์ จะรักษาแบบไหน?
ในแง่ของการรักษาจะใช้ทุกอย่าง เรามีเครื่องมือเป็นยาช่วยคลายความเครียดและอาการจากความเครียดได้
บางคนเครียดเยอะ ๆ จนออกมาเป็นความกังวลมาก ๆ ยาจะช่วยได้ หรือถ้าเครียดแล้วนอนไม่หลับ ยาก็ช่วยได้
แต่ยาเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง แต่เรื่องของการพูดคุยก็สำคัญ เพราะความเครียดส่วนใหญ่มีที่มา ถ้าเราพูดคุยถึงที่มาที่ไป
หาทางออกได้ หรือหาทางออกไม่ได้ แต่หาวิธีจัดกาอารมณ์ได้ ตัวนี้จะช่วยได้เหมือนกัน ที่ต้องระวังคือ สิ่งที่เราเครียด มันมีอย่างอื่นซ่อนอยู่
เช่น เรามีภาวะซึมเศร้าแล้วเราไม่รู้ตัว หรือมีโรคทางจิตเวชไม่รู้ตัว อันนี้ถ้ามาคุยแล้วจิตแพทย์วินิจฉัยหรือรู้แล้ว จะได้ทำการรักษาไป
เทคนิครับมือความเครียด จากจิตแพทย์
ส่วนตัวชอบการอยู่กับลมหายใจ อยู่กับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน เพราะจริง ๆ แล้วสิ่งที่ทำให้เราเครียดไม่ได้อยู่ที่นี่ตรงนี้
สมมติเราอยู่คนเดียว สิ่งที่ทำให้เราเครียดอาจจะเกิดขึ้นเมื่อห้านาทีที่แล้ว หรือถ้าเป็นบางอย่างที่ยังเกิดขึ้นอยู่ มันก็เกิดขึ้นนอกห้อง
ดังนั้นเราเลยจะกลับมาอยู่ที่ลมหายใจ กลับมาอยู่กับตัวเองที่นี่ตอนนี้ เพื่ออย่างน้อยให้เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราได้ผ่อนคลายและพักผ่อน พอชาร์จพลังพร้อมก็ค่อยออกไปลุยใหม่
บางทีเกิดขึ้นจบไปแล้ว หรือถ้ายังไม่จบมันก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ อย่างน้อยลองพักแปปนึงแล้วค่อยออกไปแก้มันก็ได้
ในทางการแพทย์ รักษาความเครียดยังไง?
อันดับแรกให้รู้ก่อน เราต้องสอนให้คนที่มารู้ตัวก่อนว่าเครียด แล้วมุ่งไปที่ทีละจุด บางทีมุ่งไปที่สาเหตุ ทำความเข้าใจสาเหตุ แล้วช่วยกันมองหาทางแก้ปัญหา
หรือไม่ก็ไปทำความเข้าใจและปรับบางสิ่งบางอย่าง พาปรับอารมณ์ ความคิด ให้รับมือกับความเครียดได้
อีกวิธีการหนึ่งคือพากันฝึกการจัดการอารมณ์แล้วดึงเทคนิคต่าง ๆ เข้ามา อย่างเมื่อกี้ที่บอกไปว่ากลับมาอยู่ที่นี่ตอนนี้
บางคนนังอยู่ด้วยกัน อาจจะชวนโยนของเล่นรับกัน เพื่อให้ต้องอยู่ที่นี่ตอนนี้ หรือบางคนเรามีเทคนิคอื่น ๆ เช่น พาเขาเบี่ยงเบนความสนใจจากความเครียด
แนะนำ ลองไปเที่ยวตรงนี้ไหมแต่ถ้าเที่ยวไม่ได้ก็หาวิธีอื่นอีก วิธีมันมีหลากหลายมาก แล้วแต่คน สำคัญก็คือวิธีไหนเหมาะกับใคร แต่ที่แน่ ๆ ต้องรู้ตัวว่าเครียดแล้วจัดการด้วยกัน
Post Views: 2,044