เราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้ดีพร้อมหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ บางทีเราอาจจะเป็น คนน่าคบหา สำหรับคนอื่น บางทีเราอาจจะเป็นคนที่ไม่น่ารักสำหรับคนอื่นเช่นกัน
บทความนี้ Alljit ร่วมกับคุณวันเฉลิม คงคาหลวง (นักจิตวิทยาการปรึกษา) เจ้าของแฟนเพจ Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา
ทำความเข้าใจกับประเด็น คนที่น่าคบหา เราควรทำตัวอย่างไร? ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองไหมในวันที่เราไม่น่ารักสำหรับคนอื่น
เราเป็น คนน่าคบหาไหม
โดยปกติเรามักจะเจอคน 3 ประเภทอยู่เสมอในชีวิต
1. กลุ่มคนที่คิดลบกับเรา
ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน พยายามปรับตัวหรือเข้าหาแค่ไหนเขาก็จะยังคิดลบกับเราอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนคงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปพูดกับเขา แค่รับมือกับการกระทำที่เขาจงใจทำร้ายเราให้ได้ก็พอ เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกทำร้าย
2.กลุ่มคนที่ดีกับเรามาก ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ยังดีกับเราเสมอ
คนกลุ่มนี้เจอได้ในทุกสังคม เช่น ถ้าเราอยุูในกลุ่มเด็กที่ขับขี่รถเสียงดัง ถึงแม้ชาวบ้านจะต่อว่าแต่คนที่ขับขี่รถเสียงดังเหมือนกัน เขาจะชื่นชมและยังสนับสนุนอีกด้วย
3.กลุ่มคนกลาง ๆ เราดีกับเขา เขาก็จะดีกับเรา แต่ถ้าเราแย่กับเขา เขาก็จะแย่กับเรา บางคนพลาดทำแย่ในช่วงแรก พอช่วงหลังทำดีเขาอาจจะกลับมาดีกับเราก็ได้
วิธีการที่เรากำลังพูดถึง จะใช้ได้กับกลุ่มคนประเภทที่ 2 , 3 เท่านั้น
กลุ่มคนที่ดีกับเราอยู่แล้ว ใช้วิธีนี้เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์สร้างมิตรไมตรีที่ดีอยู่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อเป็นการถนอมน้ำใจ ในเมื่อเขาดีกับเรา ๆ ก็ควรจะดีกับเขาตอบ
ส่วนกลุ่มคนที่กลาง ๆ กับเรา ใช้วิธีนี้เพื่อให้มีมิตรมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อไรก็ตามที่ได้อยู่ในสังคมที่มีคนรักคนชอบ เราก็ดีขึ้นพอสมควรเขาก็ดีขึ้นพอสมควร ต่างคนต่างปฏิบัติดีต่อกัน
นั้นหมายถึงกำลังได้อยู่ในสังคมที่ค่อนข้างดีจะส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีให้อีกด้วย
ต้องบอกก่อนว่าไม่จำเป็นต้องทำตามทั้งหมด คุณนำไปประยุกต์ใช้หรือเลือกใช้ใหเหมาะกับสถานการณ์ก็ได้
วิธีการเป็น คนน่าคบหา คือ “รับฟัง ยอมรับ เข้าใจ”
“รับฟัง ยอมรับ เข้าใจ”
เราไม่ควรใส่ใจความรู้สึกของคนอื่กมากกว่าความรู้สึกของตัวเอง เพราะไม่อย่างนั้นจะต้องแบกรับความรู้สึก ความกดดัน ความคาดหวังของคนอื่น กลายเป็นว่าใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการของคนอื่น
ใส่ใจความรู้สึกของตัวเอง เคารพต่อตัวเองโดยการที่ให้เขาสามารถพูดความรู้สึกที่มีต่อเราได้แล้วก็ รับฟัง ยอมรับ เข้าใจ
เช่นเดียวกันเมื่ออีกฝ่ายแชร์ความรู้สึกกับคุณ ๆ ก็ควรแชร์ความรู้สึกกับเขาอย่างซื่อตรง หรือเปิดใจแชร์ความรู้สึกกับเขาก่อนก็เป็นได้
อย่างน้อยก็ได้สัมผัสถึงความจริงใจที่มีต่อกันและกัน และแน่นอนคนที่เปิดใจยอมรับฟังความรู้สึกของผู้คนอื่นได้นั้นคือ คนที่น่าเข้าหาเป็นอย่างมาก
ควบคุมอารมณ์ตัวเอง
การควบคุมอารมณ์ตัวเองในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่า อารมณ์ทุกอย่างจะต้องหายไป แต่หมายถึงว่า คุณสามารถรับรู้ได้ว่าคุณมีอารมณ์อย่างไร อีกทั้งแสดงออกได้อย่างเหมาะสม
บางครั้งเราโมโหอย่างมาก เศร้าอย่างมากก็เผลอระเบิดออกไป แต่คนที่รับรู้ว่ากำลังโมโห กำลังเศร้า และควบคุมได้นั้น เป็นคนที่น่าคบหาอย่างมาก
วิธีเบื้องต้นสามารถบอกเขาไปอย่างตรงไปตรงมาได้เลยว่า รู้สึกอย่างไร ด้วยน้ำเสียงปกติไม่ใส่อารมณ์ ไม่ประชดประชัน แต่แฝงไปด้วยความจริงทางความรู้สึก
จริง ๆ ก็คือการต่อยอดข้างวิธีข้างต้น ที่กล่าวมาคือ “ใส่ใจความรู้สึกตัวเองก่อน แล้วรับรู้ควบคุมให้ได้”
กล้าที่จะยอมรับผิด
การกล้าที่ยอมรับผิดมันเป็นเรื่องยากสำหรับใครบางคน แต่บางคนก็เป็นเรื่องง่าย และดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วเป็นการกระทำที่มีความพิเศษอย่างมาก
คนที่กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาดของตัวเอง ทำอะไรผิดก็กล้ายอมรับเป็นคนที่มีความจริงใจต่อตัวเอง
และนั่นหมายถึงคุณกำลังทำให้ทุกคนกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดได้ ซึ่งคนแบบนี้หาได้ค่อนข้างยากในสังคมทุกวันนี้
“เราไม่รู้ว่าการที่พูดคุยกันในแต่ละวัน จะไปสะกิดโดยแผลในใจของอีกฝ่ายเมื่อไร” เราจึงควรให้ความสำคัญกับความรู้สึกดีกว่า เพราะเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอยู่แล้ว
เมื่อคุณไม่ไปพูดถึงเรื่องที่สังคมเป็นประเด็นมันก็จะทำให้คุณเป็นคนน่ารักโดยอัตโนมัติ เหมือนทุกคนพูดเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกปกติ แต่เราเลือกที่จะใส่ใจความรู้สึกอีกฝ่ายว่าเขาคง Sensitive เราก็แค่เลือกที่จะไม่พูด
และที่สำคัญต้องไม่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น อย่าเอาความทุกข์คนอื่นมาสร้างความสุขให้ตัวเอง และอย่างจงใจทำให้คนอื่นทุกข์เพื่อที่ตัวเองจะได้มีความสุข
Post Views: 2,457