ความรู้สึกกลัว ‘เวลา’ ตอนเด็กไม่เข้าใจว่าเวลามันผ่านไปเร็วตรงไหนแบบที่ผู้ใหญ่พูดกัน
เพราะเรารู้สึกอยากเร่งเวลา อยากโตไว ๆ จะได้ไปทำในสิ่งที่อยากทำ อยากมีอิสระเหมือนผู้ใหญ่ แต่พอโตมาแล้วเราเข้าใจเลยกับคำว่าเวลามันผ่านไปไว
แต่บางทีเวลาก็ผ่านไปช้าเช่นกัน โดยเฉพาะตอนที่เราเศร้า มีความทุกข์ใจ เราอยากให้มันผ่านไปไวๆ แต่เวลากลับผ่านไปช้าเหมือนแกล้งเราซะงั้น
‘เวลา’ มันช่วยเยียวยาได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแผลกายที่ตกสะเก็ดเราเฝ้ามองมันทุกวันจนมันหายไปตอนไหนไม่รู้
และแผลใจที่เจ็บปวดวันนี้ยังเจ็บปวดยุแต่พอวันนึงเวลามันเยียวยาพอเรากลับไปมองสิ่งนั้นอาจไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเจ็บแล้วเหมือนกัน
อดีต
ทุกคนเคยติดอยู่กับอดีต มีใครบ้างที่ชอบยึดติดกับอดีต แต่อดีตก็มีทั้งมีความสุขและความทุกข์
- คนที่มีมุมมองแง่บวกกับอดีต (Past positive perspective)
จะเป็นคนที่มีความสุขกับภาพความสำเร็จในอดีต หรือเหตุการณ์ในอดีต รวมถึงบุคคลในอดีตด้วย แต่อาจทำให้เป็นคนที่ยึดติดกับอดีต จนทำให้ไม่มีความสุขในปัจจุบันได้
- ส่วนคนที่มีมุมมองแง่ลบกับอดีต (Past negative perspective)
เป็นผู้ที่มองภาพอดีตในแง่ร้าย หลายคนมีแนวโน้มที่ทำตัวเองให้เป็นเหมือนเหยื่อ โทษบุคคลหรือเหตุการณ์ในอดีต ว่าเป็นเหตุให้ตนมีความทุกข์ใจ
ไม่อยากให้ทุกคนมองว่าการที่เราติดอยู่กับอดีตเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่อยากให้ทุกคนคิดว่าทุกสิ่งทุกเหตการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราเป็นธรรมดาที่ต้องเกิด
ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ก็ต้องมีเรื่องอื่นที่ต้องเกิด ลองค่อย ๆ ปล่อยวางกับสิ่งนั้น อย่าติดกับดักจนเป็นปมที่เราแก้ไม่ออกแล้วเจ็บปวดเลย .. คิดถึงแต่พอดี และอย่ารื้อฟื้นสิ่งที่เจ็บปวดกัน
อนาคต
ใครที่กังวลล่วงหน้ากับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือบางเรื่องไม่มีอะไรเลยแต่เราคิดล่วงหน้าคิดไปก่อนจนเครียด ไม่สบายใจ กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
ซึ่งการคิดแบบนี้ก็ทำให้เราลืมปัจจุบัน ไม่มีความสุขกับสิ่งตรงหน้า ลืมว่าเราต้องโฟกัสกับอะไร แต่อยากบอกทุกคนว่าให้ใจเย็น ๆ
การคิดถึงอนาคตเราคิดได้ เป็นเรื่องปกติที่เราจะคิดหรือกังวลเมื่อเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าบ้าง
เพราะมนุษย์อย่างเรา ๆ กับความไม่รู้เป็นของคู่กัน และเมื่อความไม่รู้เกิดขึ้นก็จะเกิดความกลัวและกังวลเกิดขึ้นตาม
แต่ทุกคนถ้าถามว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรเป็นมื้อเช้า ทุกคนอาจจะวางแผนในใจและรู้ว่าจะกินอะไร แต่ถ้าถามว่าพรุ่งนี้จะมีใครในชีวิตหล่นหายไป
ทุกคนก็คงไม่รู้กันใช่ไหมมันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ อยากบอกทุกคนว่าบางครั้งในชีวิตเราก็ต้องอยู่กับความไม่รู้บ้าง
เพราะความไม่รู้ทำให้เราระวังตัวและวางแผนเพื่อป้องกันความผิดพลาด แต่ถ้าเรื่องไหนเราไม่สามารถควบคุมหรือกำหนดมันได้อย่างเช้านี้จะกินอะไรดี
บางครั้งเราปล่อยมันไปตามธรรมชาติบ้างก็ได้ การคิดคาดเดาอนาคตเป็นความคิดที่อาจจะวนเวียนอยู่ในหัวของใครหลาย ๆ คน
แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราควรจะโฟกัสก็คือการอยู่กับปัจจุบัน ใช้ชีวิตแต่ละวันในปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องนึกกังวลไปถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
ปัจจุบัน
การอยู่กับปัจจุบัน เป็นอะไรที่แอบพูดง่ายแต่ทำยากเหมือน วิธีการฝึกอยู่กับปัจจุบันกัน การหายใจ 10-15 วินาทีเพื่อโฟกัสกับสิ่งตรงหน้า
คิดว่าตอนนี้เราควรทำอะไร กำลังทำอะไรอยู่ก็ช่วยได้เหมือน เขียนสิ่งที่กำลังรู้สึก ลงไปว่าเรากำลังรู้สึกอะไรอยู่เหมือนเป็นการสะท้อนและหาที่มาที่ไปที่เรารู้สึก
ชีวิตของคนเราไม่แน่ไม่นอนอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าเราจะเตรียมตัวมาดี หรือคิดว่าสิ่งนี้ดีแล้วแต่อาจจะมีอะไรเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้เสมอ
เพราะฉะนั้น การอยู่กับปัจจุบันโดยที่เรามีความสุขกับสิ่งตรงหน้าก็เหมือนกับการปูทางไปอนาคตที่ดีได้เช่นกัน
และอย่ายึดติดกับอดีตจนเราทุกข์ใจไม่มีความสุขกับปัจจุบันเลย เราไม่สามารถกลับแก้ไขได้แล้ว เรียนรู้ที่จะปล่อยและวางลงอะไรที่เราถือไว้จนหนักกัน
สำหรับใครที่กำลังเจ็บปวดกับอะไรอยู่ก็ตาม เราลองปล่อยให้เวลาไหลผ่านตัวเราไป ให้เวลาช่วยเยียวยาตัวเรา
ถ้าวันนี้เป็นวันแรกที่เรากำลังเจ็บตื่นเช้าวันต่อมาอย่างน้อยเราผ่านไปได้แล้วใจดีกับตัวเอง
ชื่นชมตัวเองที่ผ่านเรื่องราวที่ทำให้เราเสียใจเพราะสุดท้ายตัวเรานี่แหละจะคอยดึงตัวเราเองขึ้นมาได้มากที่สุด
สุดท้ายแล้วอยู่ที่ตัวเราจะเลือกอยู่ในช่วงเวลาไหน การคิดถึงอดีตแม้เรื่องไม่ใช่เรื่องแย่เลย เพียงเราต้องรู้ทันความคิด
และรู้ว่าคิดถึงมันเท่าไหนถึงเป็นประโยชน์และอิ่มใจสำหรับเรา เพราะอดีตก็คืออดีต และคนที่เก่งที่สุดคือเราในปัจจุบันที่ผ่านมันมาได้แล้ว
และหากตอนนี้ยังผ่านมันไปไม่ได้ ถ้าเปรียบชีวิตเราเป็นวงกลม วงที่เราควบคุมได้คือปัจจุบันส่วนวงที่เราควบคุมไม่ได้ก็คืออดีตและอนาคต
เพราะฉะนั้นเรา ‘เลือก’ ควบคุมในสิ่งที่ควบคุมได้เพื่อเดินหน้าเดินทาง ต่อไปกับชีวิตเรา
Post Views: 62