บางคนอาจจะมีเรื่องกังวลใจ หรืออาจจะมีนัดสำคัญในช่วงเช้าเลยทำให้ตอนกลางคือรู้สึกพะวงจึงทำให้ นอน หลับได้ไม่ค่อยดี หรือแม้กระทั่งคนที่ทำงานหนัก ติดซีรีส์ หรือเล่นเกมจนดึกจนทำให้เลยเวลานอนที่ควรจะต้องนอนไป

 

ผู้เขียน Matthew Walker (แมตธิว วอล์กเกอร)

 

Alljit ร่วมกับ อ่านแล้ว อ่านเล่า (ธนานนท์ โดมทอง) จะพาคุณท่องเข้าไปในโลกของหนังสือ

 

พร้อม ๆ กับท่องเข้าไปในจิตใจของตัวคุณ เราจะมาชวนทุก ๆ คนมาหาคำตอบกันว่าการนอนของเราสำคัญขนาดไหน

‘Why we sleep นอน เปลี่ยนชีวิต’

หนังสือที่เราจะพูดถึง ชื่อว่า ‘Why we sleep นอนเปลี่ยนชีวิต’ ที่เขียนโดย Metthew Walker (แมตธิว วอล์กเกอร์) ศาตราจารย์แห่ง University of California, Berkeley

 

โดยที่เขาเป็นทั้งผู้ก่อตั้งและเป็นผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยการนอนหลับของมนุษย์และหนังสือเล่มนี้ก็จะพูดถึงการนอนว่าการนอนสำคัญอย่างไร

 

บทแรกของหนังสือว่าด้วยการนอนที่ผ่านมานักวิทยศาสตร์ไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับเรื่องนี้มากสักเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นการนอนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

 

เพราะเป็นกระบวนการสำคัญที่ฟื้นฟูร่างกายในการต้านมะเร็งและการรักษาหัวใจ รวมไปถึงการปรับสมดุลของร่างกายอีกด้วย

 

การนอนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อหากเทียบกับการทานอาหารหรือการออกกำลังกาย มนุษย์แต่ละคนมีวงจรในการนอนที่แตกต่างกัน

 

คนที่นอนดึกตื่นสายและคนที่นอนไวตื่นเช้า ศาสตราจารย์ได้กล่าวไว้ว่าการที่เราจะเป็นคนแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับ DNA ในส่วนของคนที่ทำงานเป็นตอนกลางคืนหรือต้องเปลี่ยนเวลานอนอยู่บ่อย ๆ

 

มีสถิติและอัตราในการป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคเบาหวานและมีปัญหาเรื่องความจำมากกว่าคนที่นอนในเวลาปกติ การนอนผิดเวลาจึงส่งผลเสียต่อตัวเราเป็นอย่างมาก

 

การดื่มกาแฟและการนอนหลับโดยปกติคาเฟอีนในกาแฟจะเริ่มส่งผลหลังจากที่เราดื่มไปแล้วประมาณ 30 นาทีและต้องรอเวลา 5-7 ชั่วโมงในการที่ร่ายการจะขับคาเฟอีนออกไปได้หมด

 

นี่คือเหตุผลที่เราไม่ควรดื่มกาแฟในช่วงบ่ายเพราะว่าร่างกายของเราก็จะขับคาเฟอีนออกไม่ทันและทำให้ไปรบกวนการนอนของเราได้

 

การนอนหลับมีทั้ง 2 แบบ แบบที่ 1 ชื่อว่า REM คือการหลับตื้นหรือการหลับไม่สนิทจะเป็นช่วงที่เราฝัน การหลับตื้นจะส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

 

แบบที่ 2 คือ NON-REM คือการหลับลึกหรือหลับสนิท ในส่วนของผู้สูงอายุที่มีอาการง่วงเร็วหรือนอนตั้งแต่หัวค่ำเป็น

 

เพราะว่า เมลาโทนิน (Melatonin) สารที่ทำให้เราง่วงนอนหลั่งเร็วขึ้นและทำให้เกิดปัญหาในผู้สูงอายุคือการงีบหลับในช่วงหัวค่ำ หรือบ่าย ๆ ในระหว่างวันจึงทำให้นอนหลับตอนกลางคืนได้น้อยลง

 

รวมไปถึงการตื่นเช้าจึงทำให้วงจรในการนอนไม่เป็นแบบที่ควรจะเป็นเลยทำให้เป็นปัญหาในตอนที่เราอายุมากขึ้น

เหตุใดเราจึงควรนอนหลับ?

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีรักษาร่างกายแบบใหม่ที่จะทำให้มนุษย์มีอายุยืนยาวมากขึ้น มีความจำดีขึ้นและยังทำให้มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นอีกทั้งยังปกป้องเราจากโรคมะเร็ง

 

โรคสมองเสื่อมลดความเสี่ยงในโรคหัวใจและช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องขอหลอดเลือดในสมองรวมไปถึงโรคเบาหวานอีกด้วย

 

มีความสุขมากขึ้นและซึมเศร้าน้อยลงเพียงแค่เรานอนหลับให้เพียงพอตลอดทั้งคืนแต่คนจำนวนมากกลับเมินเฉยและทิ้งโอกาสเหล่านี้ไปในส่วนของประโยชน์สำหรับสมองก็คือเรื่องของความจำ

 

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อร่างกายที่เราต้องการจะช่วยในเรื่องของการย้ายข้อมูลจากสมองในส่วนของฮิปโปแคมปัสซึ่งเป็นการจำแบบชั่วคราวที่สำคัญสมองส่วนนั้นจะเต็มเร็วเพราะพื้นที่น้อย

 

ไปสู่คอร์เทกซ์หรือในส่วนของความจำระยะยาว นักเรียนและนักศึกษาที่อ่านหนังสือจนเช้า นอนหลับไม่เพียงพอจะทำเกิดผลเสียในเรื่องของความจำและสมอง นอกจากนั้นการงีบหลับจะทำให้เราจดจำข้อมูลใหม่ ๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย

 

การนอนหลับไม่ได้ช่วยในเรื่องความจำได้เพียงอย่างเดียวยังช่วยให้เราลืมได้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเราจะลืมไปทำไม

 

คำตอบก็คือลืมเพื่อที่จะได้เหลือพื้นที่ไว้ให้จำใหม่เพราะในสมองส่วนฮิปโปแคมปัสที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าพื้นที่ในการจำค่อนข้างน้อย ถ้าเราไม่ลืมบางส่วนเราก็จะจำสิ่งใหม่ ๆ ไม่ได้ 

โทษของการนอนน้อยหรือการอดนอน

การอดนอนส่งผลที่ร้ายแรงมาก ๆ ต่อร่างกายของเรา มากจน Guinness Book ต้องยกเลิกการบันทึกสถิติของการอดนอนเพราะมันส่งผลเสียต่อร่างกาย และคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนอนน้อยมากโดยประมาณ 6 ชั่วโมง

 

คนเหล่านี้นอนน้อยจนร่างกายชินและตื่นตัวน้อยลงอาจจะทำให้เกิดภาวะโรคหัวใจหยุดเต้นมากกว่าคนปกติ 4-5 เท่าอีกด้วย

 

มีงานวิจัยที่ทำมานานถึง 30 ปีและได้ผลสรุปออกมาแล้วว่ามนุษย์ทุกคนต้องการการนอนหลับ 7 ชั่วโมงขึ้นไป การที่เรานอน 6 ชั่วโมงติดต่อกัน 10 วัน

 

จะทำให้สมองทำงานได้แย่เท่ากับคนที่อดนอนมา 24 ชั่วโมงและหากเมื่อเรานอนน้อยแล้วไปขับรถผลลัพธ์ที่ออกมาจะส่งผลเสียมากกว่าการที่เราเมาแล้วขับเพราะคนที่เมาขับรถเขาจะแตะเบรกช้า

 

ถ้าหากเราหลับในแค่ 3 วินาทีในจังหวะนั้นเราไม่ได้แตะเบรกเลยจึงทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุของคนที่ง่วงแล้วขับจึงมีมากกว่าการเมาแล้วขับ

 

หลาย ๆ คนที่ถูกปลุกโดยเสียงนาฬิกาปลุกจะทำให้ส่งผลเสียงต่อสุขภาพการนอนหลับที่ดีคือการนอนในเวลาเดิมและตื่นเองในเวลาเดิมทุกวันแม้กระทั่งในวันหยุด

 

และยานอนหลับทำให้คุณภาพในการนอนไม่ดีเท่ากับการนอนหลับด้วยตัวเอง

 

ในบทสุดท้ายของหนังสือมีวิธีการที่ทำให้เราหลับได้ดีทั้งหมด 12 ข้อ และสิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่หลาย ๆ คนชอบเพราะเป็นสิ่งที่จะคอยเตือนเราว่าต้องนอนให้เพียงพอเพื่อร่างกายของตัวเราเอง