ถ้าพูดถึงเรื่อง บุคลิกภาพ ทุกคนนึกถึงอะไรกันบ้างคะ?

 

การยืน การเดิน การพูด การแสดงท่าทาง การแต่งตัว นอกเหนือไปกว่านั้นคือ บางคนชอบอยู่คนเดียวไม่ชอบสุงสิงสังสรรค์กับใคร บางคนชอบอยู่ท่ามกลางคนเยอะ ๆ หรือ ชอบทั้งสองอย่าง

 

บทความนี้ Alljit ร่วมกับ คุณรัชดาภรณ์ ศรีวิลัย นักจิตวิทยาคลินิก จะชวนทุกคนมาหาคำตอบว่าจริง ๆ แล้วคนที่ชอบอยู่คนเดียวทำอะไรคนเดียวแปลกจริงไหม? และบุคลิกภาพคืออะไรกันแน่? 

บุคลิกภาพ คืออะไร?

บุคลิกภาพ เป็นลักษณะทางกายและกิริยาที่บุคคลคนนั้นแสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการแสดงออกรูปร่างการแต่งกาย

 

โดยแต่ละบุคคลมีการแสดงออกที่แตกต่างออกไป ตามพฤติกรรม ตามสิ่งแวดล้อมที่พบเจอสะสมกลายเป็นลักษณะเฉพาะในการแสดงออก

 

ซึ่งนอกจากลักษณะปัจจัยภายนอกแล้ว บุคลิกภาพยังรวมถึงลักษณะความคิดภายในความรู้สึกนึกคิดจิตใจและการแสดงออกทางอารมณ์

ชอบอยู่คนเดียวเป็น บุคลิกภาพ

ส่วนคนที่ชอบอยู่คนเดียว หรือชอบสังสรรค์ก็เป็นบุคลิกภาพหนึ่งเช่นกัน  ลักษณะบุคลิกภาพตามเจ้าของทฤษฎีที่ชื่อ Carl Jung  เป็นนักจิตบำบัดและจิตแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์

 

ได้แบ่งลักษณะบุคลิกภาพตามที่บุคคลมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นไว้ 3 รูปแบบ 

1. Introvert 

2. Extrovert 

3. Ambivert  

 

Carl Jung ไม่ได้เชื่อว่าบุคคลจะมีบุคลิกภาพแบบใดแบบหนึ่งมากกว่ากัน คน ๆ หนึ่งสามารถมีบุคลิกภาพทั้งสองอย่างได้ ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลิกภาพไหนเด่นกว่ากัน 

หากนิยามบุคลิกภาพ Introvert 

เป็นคนประเภท “ รักสันโดษ ชอบอยู่คนเดียว โลกส่วนตัวสูง ชอบที่อยู่กับความคิด” เพราะเขารู้สึกว่าการมีปฎิสัมพันธ์กับตัวเอง ได้อยู่กับตัวเองอยู่กับความคิดของตัวเอง คือสิ่งที่เขารู้สึกว่าเป็นตัวเขา

 

และมีความสุขที่จะเป็นแบบนั้น สำคัญกว่านั้นคือ รู้สึกว่าเป็นการชาร์ตพลังได้ดีกว่าการต้องอยู่ในสังคมที่สังสรรค์กับคนอื่น แต่คนเหล่านี้จะรู้สึกได้ว่าเขาเองมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นได้ยาก

 

เข้าสังคมไม่ค่อยเก่ง อาจนำมาสู่ความรู้สึกว่าตัวเองแปลกได้ง่าย สำหรับคนที่มีบุคลิกภาพเช่นนี้แล้วรู้สึกว่ามีความสุข ยังหาความสุขจากการใช้ชีวิตของตัวเองได้อยู่

 

ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งเมื่อต้องเข้าสังคมเจอผู้คนเยอะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นทำงานร่วมกับคนหมู่มาก

 

หรือจำเป็นต้องไปงานสังสรรค์ เขาจะรู้สึกว่าต้องใช้พลังงานในตัวเองเยอะมาก ๆ ต่างจากเขาอยู่คนเดียว บางคนอาจรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเองเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางคนเยอะ ๆ ได้เหมือนกัน 

บุคลิกภาพที่ 2 คือ  Extrovert

คนเหล่านี้จะตรงข้ามกับ Introvert เลย  เขาชอบสังสรรค์มาก  ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากมีเพื่อนกลุ่มใหญ่  

 

ชอบเอนเตอร์เทนคนรอบข้างให้รู้สึกมีความสุข เพราะเป็นเหมือนการชาร์จพลังให้กับตัวเองไปด้วย เมื่อได้เห็นคนรอบข้างยิ้มหัวเราะ แต่คนเหล่านี้มักเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นเมื่อไม่มีคนอยู่ด้วย

 

อาจเป็นจุดอ่อนจุดนึงที่เกิดขึ้นได้กับคนบุคลิกภาพ Extrovert เขาจะรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวดูโดดเดี่ยว ดูเหงา อาจเป็นเพราะเขาเอาอารมณ์ตัวเองไปขึ้นอยู่กับคนอื่นมากเกินไป

 

จึงทำให้เวลาต้องอยู่คนเดียวคนเหล่านี้มักจัดการตัวเองไม่ค่อยได้ 

บุคลิกภาพที่ 3 คือ Ambivert 

คนกลุ่มนี้จะอยู่ตรงกลางระหว่าง Introvet กับ Extrovet เขาจะชอบกิจกรรมชอบสังสรรค์กับเพื่อน แต่เมื่อต้องอยู่คนเดียวก็อยู่ได้ เป็นคนที่ Enjoy กับทุกอย่าง ไปสังสรรค์กับเพื่อนก็ได้ หรืออยู่คนเดียวก็ได้เช่นกัน

 

ไม่ชอบให้ตัวเองต้อง perfect อยู่ตลอดเวลา ง่าย ๆ สบาย ๆ คนกลุ่มนี้มักสนใจว่าอยู่ตรงไหนแล้วมีความสุข อยู่ตรงไหนแล้วรู้สึกสนุกก็จะอยู่ตรงนั้นมากกว่า

 

มีความยืดหยุ่นกับตัวเองได้ค่อนข้างดี รู้จักปรับตัวและเข้ากับคนได้เก่ง

 

แต่จุดอ่อนของคนกลุ่มนี้คือ มักมีความรู้สึกหนักใจว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน ชอบอะไรกันแน่ มีความต้องการอย่างไร 

หากอยากลองสังเกตว่าตัวเองเป็นคน Extrovert, Introvert หรือ Ambivert  กันแน่? 

ให้ลองสังเกตจากการแสดงออก เมื่อตัวคุณอยู่กับคนรอบข้างคุณเป็นอย่างไร แบบไหนที่ชาร์จพลังคุณได้ดีกว่ากัน 

 

เช่น คน Introvert อาจไม่ได้หมายความว่าเขาชอบอยู่คนเดียวจนไม่ออกไปเจอผู้คนเลย เพียงแต่เขาอาจชอบอยู่กับคนกลุ่มน้อยมากกว่า

 

เพราะรู้สึกว่าได้คุยกันแล้วเข้าถึงเนื้อหาที่คุยกับคนรอบข้างมากกว่า รู้สึกปลอดภัยในการเป็นตัวเอง

 

คน Extovert  จะรู้สึกว่าไม่สามารถเข้าไปคุยในบทสนทนาที่ลึกซึ้งได้ เพราะเขาชอบที่จะเอนเตอร์เทนอยู่ตลอด รู้สึก Enjoy กับการมีเพื่อนมากกว่า

 

ส่วนคน Ambivert จะชอบเข้าสังคมหรือการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างไม่อึดอัด แต่ในบางครั้งก็รักที่จะให้เวลาตัวเอง และชอบที่จะอยู่คนเดียวด้วยเช่นกัน 

 

แต่พฤติกรรมของคนประเภท Ambivert จะเอนเอียงไปทางพฤติกรรมคนเปิดเผยหรือเก็บตัวมากกว่ากันนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย

 

และบุคลิกภาพทั้งหมด มีส่วนที่ส่งผลต่อคนรอบข้างได้ หากคนบุคลิกภาพนั้น ๆ ต้องทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเขาเอง เขาอาจรู้สึกว่าสิ่ง ๆ นั้น เรื่องนั้น ๆ เป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาได้ 

 

สุดท้ายแล้วไม่ว่าบุคลิกภาพของคุณจะเป็นแบบไหน นั่นไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าคุณควรจะอยู่ตรงไหน หรือทำอะไร เพียงแต่ให้รู้ว่าอะไรที่จะทำให้คุณมีความสุขขึ้น รู้สึกสนุกไปกับสิ่ง ๆ นั้น

 

กับการที่คุณมีจุดเด่นตรงนี้ และเรียนรู้ที่จะพัฒนาจุดอ่อนของตัวเองเท่านั้นเอง