เราคิดถึงความตายบ้างหรือยัง

พินัยกรรมแด่ตัวเอง เมื่อความตายอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด

เรื่องAdminAlljitblog

 

 

การเตรียมตัว วางแผน พูดคุยกันไว้ก่อน เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าเราตกลงกันไว้

 

คนใกล้ชิด ที่จะต้องตัดสินใจบางอย่างในอนาคตจะได้ไม่ต้องเครียดจนเกินไป หาทางออกไม่ได้

 

หรือรู้สึกผิดที่จะต้องตัดสินใจบางอย่าง หรือต้องแบกความรู้สึกไว้คนเดียวเรื่องการรักษาเหล่านี้กลายเป็นหน้าที่ของครอบครัว

 

ลูกหลานของคนไข้หลาย ๆ คนบอกว่ารู้สึกลำบากใจ บางคนรู้สึกผิดหลังจากเลือกการรักษาต่าง ๆ

 

ซึ่งเอาจริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ว่าจะต้องทำอย่างไร…

 

ชวนตั้งคำถามเรื่องความตาย

 

  1. รู้ใช่ไหมว่าคนเราทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แล้วเคยคิดถึงความตายของตัวเองบ้างหรือเปล่า?
  2. ถ้าวันหนึ่งสุขภาพแย่ลง สภาพแบบไหนที่ไม่ต้องการ หรือ ยอมรับไม่ได้?
  3. ถ้าวันหนึ่งเจ็บป่วยหนัก อยากใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอย่างไร?

 

การวางแผนดูแลล่วงหน้า หรือ Advance Care Planning คือ กระบวนการวางแผนดูและสุขภาพที่ทำไว้

 

ก่อนที่ผู้ป่วยจะหมดความสามารถในการตัดสินใจ หรือเข้าสู่ระยะท้ายของชีวิต อาจจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้

 

กระบวนการวางแผนดูแลล่วงหน้า จะใช้กระบวนการสนทนาพูดคุยแบบใดก็ได้ระหว่าง

 

  1. ผู้ป่วยกับครอบครัวและทีมบุคลากรสุขภาพ
  2. ผู้ป่วยอาจทำด้วยตนเอง
  3. ผู้ป่วยปรึกษาสมาชิกในครอบครัว
  4. ผู้ป่วยปรึกษาบุคลากรสุขภาพ

 

การดูแลแบบประคับประคองคืออะไร ?

 

การดูแลแบบประคับประคอง หรือ Palliative Care คือ การดูแลที่มีมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และครอบครัว

 

โดยลดความทุกข์ทรมานทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ เป็นการดูแลควบคู่กับการรักษาหลักที่มุ่งหวังกำจัดตัวโรค

 

การดูแลแบบประคับประคองจะคำนึงถึงความต้องการและความปรารถนาของผู้ป่วยและครอบครัวร่วมด้วย

 

เป้าหมายของการดูแลแบบประคับประคอง คือ การมุ่งหวังให้ผู้ป่วยและบุคคลในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข

 

มีความสัมพันธ์ที่ดีในวาระสุดท้าย มีความสุขสบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ครอบคลุมถึงการลดความทุกข์ทรมานจากการยื้อชีวิต เนื่องจากการรักษาบางอย่างในห้อง ICU

 

Stages of Grief ทฤษฎีระยะเวลาของการก้าวผ่านความสูญเสีย

ทฤษฎีระยะเวลาของการก้าวผ่านความสูญเสีย  ต้องบอกก่อนว่าทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่ครอบคลุมการสูญเสียทุกรูปแบบ

 

การเสียชีวิต การเลิกรา การตกงาน เพราะฉะนั้นทฤษฎีนี้อาจจะทำให้เราเข้าใจความเป็นไปทางความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น

 

ทฤษฎีนี้จะแบ่งความรู้สึกออกเป็น 5 ระยะ

 
  • Stage 1 : Denial ปฏิเสธ 

สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราเจอความสูญเสียหรือผิดหวังตัวเราจะปฏิเสธและไม่ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริง ๆ อาจจะมีความคิดว่ามันคือความฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง

 

  • Stage 2 : Anger โกรธ 

ระยะนี้เราจะเริ่มได้สติ ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ้าง เริ่มรู้ตัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก็เริ่มโกรธ

 

อาจจะตีโพยตีพาย โทษคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่นอนว่าภายใต้ความโกรธจะมีอารมณ์อื่นปะปนอยู่ด้วย เช่น ความกลัว ความเศร้า รู้สึกผิด เสียใจ

 

  •  Stage 3 : Bargaining ต่อรอง 

เป็นระยะที่เราไม่มั่นคงในจิตใจมากที่สุด คือ หลังจากโกรธน้อยลง เราจะเริ่มอยากกลับไปแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด เช่น ขอโอกาส ถ้าย้อนกลับไปได้จะแก้ไขให้ดีขึ้น

 

  • Stage 4 : Depression เศร้าเสียใจ 

หลังจากที่ผ่านทั้งสามระยะมาเราจะเริ่มรู้ตัวเองอย่างชัดเจนแล้วว่าเราต้องยอมรับและคงเปลี่ยนผลลัพธ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้

 

นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น บางคนก็เศร้าเสียใจมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ บางคนสามารถพัฒนาระยะนี้เป็นภาวะซึมเศร้าได้

 

ระยะนี้ต้องมีคนคอยดูแลพราะถ้าไม่มีคนไว้คอยรับฟัง

 

  • Stage 5 : Acceptance ยอมรับ 

เป็นระยะที่อาการเศร้าเสียใจต่าง ๆ ดีขึ้น สามารถยอมรับการการจากลา การสูญเสียได้

 

แต่ก็อาจจะไม่ได้ถึงขั้นว่ามีความสุข หัวเราะร่าเริง แต่เริ่มอยู่กับปัจจุบันได้มากขึ้น

 

ถึงแม้เราจะรู้ว่าเจ็บป่วย การจากลาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอแต่ระยะที่กว่าจะผ่านและยอมรับได้ก็มี Step

 

และขั้นตอนของความรู้สึกเหล่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมให้เวลาและพื้นที่ในการดูแลฟื้นฟูตัวเอง

 

อย่าลืมขอบคุณตัวเอง และอย่าลืมให้อภัยตัวเอง ณ ปัจจุบันนี้ด้วย จนกว่าใจจะค่อย ๆ ยอมรับและผ่านพ้นไปได้

 

อาจเป็นการรักษาที่สร้างความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดโดยที่ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ

 

 

ที่มา : 

Stages of Grief 5 ระยะ ก้าวผ่านความสูญเสีย

It’s Good to Feel Sad Sometimes: Here’s Why