หมดpassionกับความรัก

รักอิ่มตัว หมด Passion มีจริงไหม ในมุมมองนักจิตวิทยา

เรื่องAdminAlljitblog

รักอิ่มตัว มีจริงไหมสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน

 

บทความนี้ Alljit ร่วมกับคุณวันเฉลิม คงคาหลวง (นักจิตวิทยาการปรึกษา) เจ้าของแฟนเพจ Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา

 

ที่จะมาบอกเล่ามุมมองของนักจิตวิทยาเกี่ยวกับรักอิ่มตัว

คบกับแฟนนาน ๆ รู้สึกเฉย ๆ ถามว่ารักไหมก็รัก เลิกดีไหมก็ไม่อยากเลิก  หากไม่มีมือที่สาม แล้วจะมีจริง ๆ หรอ กับคำว่ารักอิ่มตัว หรือจริง ๆ แล้ว รักอิ่มตัวก็คือรักไม่มีเกี่ยวกับตัวแปรอื่นหรอก

รักอิ่มตัว ในมุมมองนักจิตวิทยามีจริงหรือไม่? 

ทุก ๆ อย่างมีจุดอิ่มตัวเสมอ รวมถึงความรักก็เช่นกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคู่จะต้องเจอจุดอิ่มตัว หรือบางคู่อาจจะใช่ระยะเวลานานมากกว่า จะเดินมาถึงจุดอิ่มตัว

 

พูดให้เข้าใจง่ายคือแรก ๆ อะไรก็ดีนั่นเอง หรือเรียกว่า ช่วง Honeymoon Period จะอยู่ในช่วง 6 เดือน ถึง 2 ปี หลังจากนั้นจะใช้ความเป็นตัวของตัวเองอยู่ด้วยกัน 

 

ซึ่งในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน จะมีความท้าทายความสนุกสนาน ความอยากรู้ อยากลองทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกัน จนวันหนึ่งรู้สึกว่าไม่มีอะไรให้ค้นหาไปด้วยกันแล้ว

 

ความต้องการของเรามาถึงจุดอิ่มตัว เมื่อถึงตอนนี้ลองถามความรู้สึกตัวเองว่าเรามีความรักไปเพื่ออะไร เรารักคนนี้เพราะอะไร

 

เพื่อค้นหาคำตอบ ตอบสนองความต้องการของคุณไปต่อเรื่อย ๆ และมีปลายทางให้เราเสมอ ปลายทางนั้นอาจไม่ต้องยิ่งใหญ่ แต่ขอแค่มีคน ๆ นี้อยู่ร่วมทางไปด้วยเสมอ 

อาถรรพ์รัก 7 ปีมีจริงไหม หรือจริง ๆ แล้วก็แค่ รักอิ่มตัว 

หากมองแบบสมเหตุสมผลไม่ต้องถึง 7 ปีก็สามารถเลิกกันได้ แต่อาจเป็นช่วงเวลาที่คู่รักส่วนใหญ่เลิกกัน จนทำให้เกิดความเชื่อนี้ขึ้นมา หากตอบไม่ได้แล้วว่าเราคบเขาไปเพื่ออะไร

 

นั่นอาจเป็นคำตอบได้ว่า คุณไม่รักเขาแล้วคุณอาจจะยังไม่พร้อมที่จะมีความรักที่มั่นคงหรืออิ่มตัวและเมื่อความต้องการไม่ตรงกัน ก็หมดรักกันในที่สุด อาจไม่ถึง 7 ปีหรือมากกว่านั้นก็ได้ 

รักอิ่มตัวไม่มีระยะที่ชัดเจน

ฉะนั้น คำว่ารักอิ่มตัว ไม่มีระยะเวลาที่ชัดเจน ในบางคู่อาจอยู่กันไปเรื่อย ๆ ไม่รู้สึกถึงความอิ่มตัวนั้น หรือรักแฟนน้อยลงเลย

 

ถึงแม้เขาจะไม่มีในสิ่งที่เราต้องการ หรือ สิ่งที่อยากค้นหาไปด้วยกันแล้ว แต่เราก็สามารถอยู่ในความสัมพันธ์อย่างมีความสุขต่อไป และมีปลายทางที่ชัดเจนด้วยกันขึ้นอยู่กับว่า “เราจะจับมือกันแน่นแค่ไหน”