เรื่องบางเรื่อง ไม่ต้องรู้ก็ได้ บางเรื่องรู้ก็ดีนะ แต่ไม่รู้ดีกว่า ถึงมีประโยคนี้ให้ได้ยินกันบ่อย ๆ ” เรื่องบางเรื่อง ไม่ต้องรู้ก็ได้ ” จริง ๆ แล้วแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
วันนี้เราจะมาร่วมพูดคุยกันใน Alljit Podcast กับรายการ Learn & Share
ในชีวิตประจำวันของเรา เรามักอยากรู้หลาย ๆ เรื่อง เพื่อการใช้ชีวิตดำเนินไปแบบมีเรื่องราว มีเรื่องคุย บางเรื่องรู้แล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลย บางเรื่องรู้แล้วทุกข์
บางเรื่องพยายามจะรู้ให้ได้ พอรู้แล้วรับไม่ได้นั่นเพราะอะไร
ทำไมเราต้องอยากรู้ ? วิทยาศาสต์กับความสงสัยอยากรู้ของมนุษย์
Curiosity คือ ความอยากรู้อยากเห็นหรือความสงสัยใคร่รู้ ส่วนใหญ่จะถูกอธิบายว่าคือ ความต้องการหรือความปรารถนาที่จะรู้ เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราออกไปค้นหาความแปลกใหม่หรือสร้างองค์ความรู้ต่าง ๆ
นักจิตวิทยา Jordan Litman กล่าวไว้ว่า Curiosity แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
I Curiosty Interest = ความสนใจ เป็นความอยากรู้ที่เกิดขึ้นเองแบบ เชิงรุกก็คือ เช่น อยากรู้แหล่งที่มาของสถานที่เที่ยวนั้น,ทำไมตรงนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย
D Curiosty Deprivation = เป็นความอยากรู้ที่ถูกกระตุ้นด้วยคำถาม ความกระวนกระวายใจ จนต้องหาคำตอบ เช่น เรานึกถึงเพลงเพลงหนึงที่เราเคยชอบมากแต่ไม่รู้ว่าเพลงอะไร จนต้องค้นหาเพื่อให้ได้คำตอบ
Litman กล่าว่า ระหว่างที่ยังไม่ได้คำตอบนั้น D -curiosity ก็คือความเครียดเล็ก ๆ จนกระทั่งเมื่อได้คำตอบแล้ว D-curiosity
ถึงจะเปลี่ยนเป็นความพอใจและความสุข ดังนั้น คนเราจึงไม่ค่อยชอบ D-curiosity
ความอยากรู้ของคน มีกี่รูปแบบ
นักจิตวิทยา ทอดด์ แคชแดน Todd Kashdan ยังจำแนกประเภทของ “คน” ที่อยากรู้อยากเห็นออกเป็น 4 ประเภทด้วย คือ
1. Problem Solvers คนแบบนี้จะมีอาการคันอยากจะแก้ปัญหาให้ได้อยู่เรื่อย เห็นประเด็นอะไรก็เกิดความสงสัยว่าจะทำให้ดีกว่าได้ไหม
2. Empathizers สนใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พยายามเข้าใจพฤติกรรมของคนที่พบเห็น รวมถึงผู้คนต่าง ๆ ในสังคมที่ได้ยินมา
3. Avoiders คือ คนที่ไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะรู้สึกเครียด มีภาระอยู่แล้ว หรือชีวิตก็เครียดอยู่แล้ว ก็เลยเลือกที่จะไม่สนใจอะไร
4. The Fascinated คือ คนที่อยากรู้ไปหมด มีความสุขกับการอยากรู้ คนแบบนี้คือคนที่รับเอาความ curiosity ทุกรูปแบบไว้ในตัวเอง
รวมทั้งเป็นทั้ง Problem Sovers และ Empathizer ในคนคนเดียวกัน ทำให้น่าจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด และมีชีวิตน่าสนใจที่สุดด้วย
เรื่องบางเรื่อง ไม่ต้องรู้ก็ได้ ?
ข้อดี
ในเชิงวิทยาศาสตร์ คือ เมื่อเรารู้สึกสงสัยอยากรู้อะไร สมองมีกลไก ‘Rewarding system’ และหลั่งสาร Dopamine ทำให้มีความรู้สึกดี
กลไกเหล่านี้เองที่ช่วยให้มนุษยชาติก้าวไปข้างหน้า และไม่หยุดค้นหาคำตอบใหม่ ๆ
อย่างเช่น นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้นความอยากรู้ อยากเห็นส่งผลให้เรามีแรงขับเคลื่อนในการเข้าสังคม สร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ
ข้อเสีย
เมื่อไหร่ที่เรามีความสงสัย อยากรู้ แล้วไม่ได้รู้กมันค้างคาใจ จะทำให้เรากระวนกระวายใจ อาจส่งผลให้เครียด นอนไม่หลับ วิตกกังวล
แต่หากเรารู้ความจริง แต่รับความจริงไม่ได้ก็เครียดอีกเช่นเดียวกัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ที่มา :
‘เรียนรู้ว่าเราไม่ต้องรู้ไปทุกอย่าง’
ทำไมมนุษย์ถึงสนใจใคร่รู้
“ทำไม?” เรื่องของ curiosity
Post Views: 999