ถ้าวันนี้เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ แฟนเอาแต่ใจ จะมีวิธีไหนไหมที่จะช่วยทำให้เราทั้งคู่เข้าใจกันได้เป็นอย่างดี?

 

เพราะจะบอกตรง ๆ ก็กลัวว่าแฟนจะงอน กลัวแฟนจะไม่พอใจ

 

บทความนี้ Alljit ร่วมกับ คุณวันเฉลิม คงคาหลวง (นักจิตวิทยาการปรึกษา) เจ้าของแฟนเพจ Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา

ถ้า แฟนเอาแต่ใจ ควรรับมือย่างไรดี? 

ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น เช่น แฟนอยากให้เราเป็นแบบที่เขาต้องการ แฟนมักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล แฟนต้องเป็นคนถูกเสมอในทุก ๆ เรื่อง

 

และเราไม่สามารถตอบโต้แย้งอะไรกลับไปได้เลย แต่ด้วยความรักและด้วยเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้วันนี้เรายังอยากที่จะอยู่กับเขาต่อไป 

คนเราไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้

ก่อนอื่นอยากให้เราทำความเข้าใจก่อนว่า คนเราไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้ ถ้าเขาเลือกที่จะเปลี่ยน เขาไม่ได้เปลี่ยนเพราะใคร

 

แต่เขาเปลี่ยนเพราะตัวของเขาเอง ถ้าคุณคิดว่าเขาจะเปลี่ยนไปได้เพราะคุณ นั่นอาจจะเป็นเพราะคุณคิดผิดตั้งแต่แรก ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนเขาทั้งหมดยิ่งยากเพราะนั่นคือ “ตัวตนของเขา” 

 

ถ้าเราคิดที่จะเปลี่ยนเขาในตอนนี้ยิ่งยากมากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าหากวันหนึ่งเขาเลือกที่จะเปลี่ยนขึ้นมาจริง ๆ เขาอาจจะเปลี่ยนได้แค่เพียงชั่วคราวหรือถาวรก็เป็นไปได้ ซึ่งเราสามารถลองพยายามดูก่อนได้ 

 

แต่ถ้าหากวันนี้เรากลัวว่าการที่จะคุยกับเขาแบบตรง ๆ จะทำให้เขาเกิดอาการงอน ต้องลองคิดดูใหม่อีกทีก่อนว่า ปัญหาที่แท้จริงอยู่ตรงไหน อาจจะต้องแยกให้ออกก่อนว่าจริง ๆ แล้ว “เขาขี้งอน” หรือ “เขาเอาแต่ใจ”

แฟนมีนิสัยขี้งอน 

การงอนกันหรือการทะเลาะกันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาไม่ใช่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้อาการงอนเกิดขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เกิดการงอนกันขึ้นมา ต้องพยายามอย่าทำให้ปัญหานั้นเกิดความยืดยาว

 

ต้องลองถามตัวเองว่าเพราะอะไรคุณถึงกลัวเขางอนมากขนาดนั้น เช่น กลัวเพราะเวลาที่เขางอนเขามักมีอารมณ์ที่รุนแรงหรือเวลาที่เขางอนเขาไม่มีเหตุผล คุณต้องดูนิสัยคู่รักของตัวเองว่านิสัยของเขาเป็นแบบไหน

แฟนเอาแต่ใจ 

การพูดตรง ๆ เป็นการเคลียร์กันให้เข้าใจกันได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม อยากชวนให้มองย้อนกลับไปดูตั้งแต่ตอนแรก ตอนที่คุณเริ่มคุยกับเขา

 

ซึ่งตอนแรกตัวตนของแต่ละคนอาจจะยังออกมาไม่หมด และนั่นก็ไม่ใช่ความผิดของใคร ถ้าเกิดคุณอยากที่จะเปลี่ยนเขาให้ได้ และคุณมีความพยายามมากพอที่อยากจะเปลี่ยนเขา คุณสามารถลองทำได้ 

“เขาเป็นคนที่เอาแต่ใจจนคุยกันไม่ได้เลย” 

นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะแปลว่าเขาไม่รับฟังการสื่อสารอะไรทั้งนั้น หลังจากนั้นอยากให้คุณลองมองดูมุมอื่น ๆ ของเขาแทน

 

ว่านอกจากมุมนี้แล้วมีมุมไหนที่มาทดแทนให้กับมุมนี้ได้บ้างหรือเปล่า ถ้าหากมีมุมอื่นมาหารเฉลี่ยและลงตัวก็สามารถทดแทนกันได้

 

แต่ถ้าไม่มีมุมไหนมาทดแทนกันได้เลย แบบนั้นจะยิ่งทำให้ทุกอย่างยากมากขึ้นกว่าเดิม เพราะจะไม่มีอะไรมาทดแทนให้กับสิ่งนี้ได้

 

และด้วยนิสัยการเอาแต่ใจโดยไม่ฟังเสียงของอีกฝ่ายมักเป็นบ่อเกิดให้กับความรักของบางคู่เริ่มไปในทิศทางที่ไม่ดี

คุณคุยกับแฟน เรื่องที่ แฟนเอาแต่ใจ ได้มากน้อยแค่ไหน?

ข้อดีข้อเสียของเขาลงตัวหรือเปล่า ถ้าตอนนี้คุณกับเขายังคุยกันได้ดีก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ลองกลับมาวัดที่ผลประโยชน์ทางความสัมพันธ์ของความรู้สึกกับสิ่งที่ควรได้กับสิ่งที่คุณเสีย

 

ถ้าคุณยอมรับได้ก็ไปต่อแต่ไม่ได้ความว่าคุณจะต้องยอมรับแบบนี้ไปตลอด ความรู้สึกของคนเราเปลี่ยนแปลงกันได้อยู่เสมอ เช่น ถ้าวันนี้ได้วันหน้าไม่ได้ก็แค่เปลี่ยนคิดทบทวนดูใหม่

คุณจะสื่อสารกันได้อย่างไร?

การงอนกันไม่ใช่ปัญหาแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ถ้าเขางอนก็ปล่อยให้งอนแต่มาดูว่าคุณจะสื่อสารกันได้อย่างไร

 

อยากให้คุณยอมรับตัวตนของเขาเพื่อรู้จักเขาให้มากขึ้น เพราะถ้าคุณไม่ให้เขาเป็นตัวของตัวเองคุณก็จะไม่มีทางรู้จักเขาอย่างแท้จริง

 

การที่เขามีนิสัยขี้งอน ลองเข้าใจเขาให้มากขึ้น การที่เขามีนิสัยเอาแต่ใจเท่ากับคุณได้เห็นตัวตนของเขามากขึ้น ให้คิดว่าเป็นการศึกษาซึ่งกันและกันเพื่อทำความเข้าใจกันและกัน ยอมรับตัวตนของกันและกัน

 

อย่าพยายามอยู่ในภาพจำของเขาในอดีต ให้อยู่กับภาพจำในปัจจุบัน

การพยายามที่จะเปลี่ยนตัวตนใครสักคน คุณต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วย

ถ้าคุณอยากลองเปลี่ยนนิสัยแฟน คุณสามารถลองเปลี่ยนได้ แต่จะสำเร็จไหมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คุณต้องเผื่อใจไว้ด้วย อย่าคิดว่าถ้าคุณพยายามแล้วผลจะออกมาสำเร็จเสมอไป 

 

โลกแห่งความเป็นจริงเมื่อมีผลสำเร็จก็ย่อมจะมีผลที่ไม่สำเร็จเช่นเดียวกับการทำธุรกิจ

 

อย่าโฟกัสว่าความพยายามจะก่อให้เกิดผลสำเร็จเสมอไปแต่ให้มองถึงความภาคภูมิใจที่จะได้เป็นรางวัลให้กับตัวคุณ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพยายามที่จะเปลี่ยนตัวตนใครสักคน

 

คุณต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วยว่าใช่ว่าความทุ่มเทเต็มที่จะสามารถทำให้แฟนของคุณเปลี่ยนไปได้อย่าหวังที่ความสำเร็จเพราะอาจจะผิดหวังได้แต่ให้มองว่าครั้งหนึ่งอย่างน้อยคุณได้ลองพยายามทำเต็มที่แล้ว

 

เพราะฉะนั้นเรื่องนิสัยขี้งอนเป็นเรื่องธรรมดาของคู่รัก เรื่องเอาแต่ใจเป็นเรื่องของนิสัย ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถเข้าไปคุยกับเขาเพื่อให้เขาเข้าใจ

 

และยอมเปลี่ยนตัวตนได้ ต้องเผื่อใจด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะแค่ชั่วคราวหรือตลอดไป

 

ก็ขึ้นอยู่กับคู่รักของคุณแต่ถ้าทุกอย่างไม่ได้ลงตัวอย่างที่ใจคิด ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูใหม่ว่าคุณสามารถรับสิ่งนั้นได้มากน้อยแค่ไหนเพราะตัวคุณเป็นคนรับความสุขและความทุกข์นั้นไว้กับตัวเอง คิดทบทวน