ความวิตกกังวล

โรควิตกกังวล เรื่องใกล้ตัว กับเรื่องราวที่ทุกคนควรรู้

เรื่องAdminAlljitblog

โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) อีกครั้งและมาลงลึกถึงรายละเอียดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น 3 ระดับของความวิตกกังวล กลุ่มโรคในร่มเดียวกัน

 

ไปจนถึงกลไกการเกิดภาวะวิตกกังวล แล้วมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันว่า โรควิตกกังวล โฟเบีย และแพนิคเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง

 

 

Anxiety Disorder “เป็นภาวะที่ประชาชนมักเข้าใจผิดกันบ่อย คิดว่าผู้ป่วยแกล้งทำ หรือคิดว่าเกิดมาจากตัวเอง

 

ไม่ได้เจ็บป่วย จึงไม่ไปพบแพทย์ หรือจิตแพทย์ เพื่อรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุ ซึ่งโรคนี้มียารักษา และต้องใช้วิธีบำบัดร่วม เพื่อปรับความคิดและพฤติกรรม ”

 

ซึ่งจากหนังสือจิตเวชศาสตร์รามาธิบดี ได้อธิบายว่า  Anxiety เกิดเมื่อมีความเครียดเข้ามากระทบจิตใจของเรา นั่นหมายความว่า  Anxiety  ก็พัฒนาต่อมาจากความเครียดนั่นเอง

 

 

ลักษะของ Anxiety  Disorder

 

ทางใจ : สับสน เครียด กังวล วิตก ตื่นเต้น ไม่มีความสุข 

 

ทางกาย : มือสั่น ตัวสั่น ปัสสาวะบ่อย ปั่นป่วนในท้อง แน่นหน้าอก ลุกลี้ลุกลน

 

ความวิตกเป็นอาการที่เกิดได้กับคนปกติก็จริง แต่จะถือว่าผิดปกติหรือเป็นโรคเมื่อเกิด 4 ข้อนี้

 

1.  ความวิตกที่เกิดขึ้นมากเกินกว่าจะอธิบายด้วยความเครียดที่มากระตุ้น  (รู้สึกมากกว่าสถานการณ์ที่เกิด)

 

2.  ความวิตกกังวลที่เกิดมีอาการรุนแรงมาก 

 

(ไม่ได้แน่นหน้าอกธรรมดา แต่แน่นจนหายใจลำบาก หรือ รู้สึกว่านั่งเฉย ๆ ไม่ได้ ต้องวิ่ง ต้อนหนีเดี๋ยวนั้น)

 

3. อาการยังคงอยู่แม้สิ่งเร้าจะไปแล้ว

 

4.  อาการที่เกิดขึ้นรบกวนกิจวัตรประจำวันและหน้าที่การงาน

 

 

ระดับความ วิตกกังวล  

1. ระดับต่ำ Mild Anxiety

 

 ระดับนี้พบได้ทั่วไป เช่น การตึงเครียดจากการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นระดับที่ทำให้บุคคลเกิดความตื่นตัว กระตือรือร้นที่จะเอาชนะปัญหา มีการรับรู้ที่ว่องไว ความจำดี สมาธิดี

 

อารมณ์และการกระทำไม่เปลี่ยนจากปกติมากนัก รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระเนื่องจากระบบประสาทอัตโนมัติถูกกระตุ้น เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น ม่านตาขยาย ฝ่ามือมีเหงื่อออก

 

การเคลื่อนไหวเร็วขึ้น บุคคลที่มีความวิตกกังวลระดับต่ำนี้ยังสามารถควบคุมตนเองได้ โดยอาจต้องการความช่วยเหลือบ้าง เช่น ต้องการ รเรียนรู้ลดลง อาจมีอาการทางสรีระ

 

เช่น หายใจเข้าออกแรง รู้สึกปั่นป่วนในกระเพาะอาหาร ปวดศีรษะ บุคคลที่มีความวิตกกังวลระดับปานกลางนี้ยังสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองได้ 

 

2. ระดับรุนแรง Severe Anxiety 

 

ระดับนี้มีผลทำให้ประสาทสัมผัสและการรับรู้แคบลง ทำให้หมกมุ่นในรายละเอียดมากจนเกินไป ไม่สามารถจับสาระสำคัญของเรื่องใดได้ ความสามารถในการแก้ไขปัญหาลดลงและทำงานได้ไม่เต็มสมรรถภาพ

 

เกิดความสับสน มีพฤติกรรมที่แสดงออกเพื่อปกป้องตนเองมากขึ้น และมักเป็นพฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่สังเกตเห็นได้ เช่น กระวนกระวาย หงุดหงิด โมโหง่าย เรียกร้องเกินกว่าเหตุ ต่อต้าน ตื่นกลัว

 

ตัวสั่น เกร็ง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ท้องเดิน หรือท้องผูก นอนไม่หลับ บุคคลที่มีความวิตกกังวลระดับรุนแรงนี้ต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น

 

3. ระดับรุนแรงมาก  Panic Level Anxiety 

 

ระดับนี้มีผลทำให้บุคคลเกิดความกลัวอย่างรุนแรงมาก หรือเป็นความกลัวสุดขีด ทำให้บุคคลขาดการควบคุมตนเอง และแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ไม่มีในสภาวะปกติ เช่น กรีดร้อง

 

วิ่งหนีไปอย่างไรจุดหมาย หรือตกตะลึงแน่นิ่งหมดสติทันทีทันใด บุคคลที่มีความวิตกกังวลระดับรุนแรงมากนี้ จะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองและไม่สามารถทำภารกิจเหมือนปกติได้ 

 

 

โรคกลัวต่าง ๆ เชื่อมโยงกับภาวะวิตกกังวล 

 

1.  Separation Anxiety Disorder : เป็นโรคที่มีความวิตกกังวลในเรื่องการแยกจาก (กลัวการแยกจาก)

 

2.  Selective Mutism : เงียบใบ้ พูดไม่ได้แบบเฉพาะเจาะจงสถานการณ์

 

3.  Specific Phobia: กลัวมากกว่าปกติในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แบบเจาะจง

 

4.  Social Anxiety Disorder (Social Phobia) :  กลัวสถานการณ์ที่คนจ้องมองมาที่ตนเอง

 

5.  Panic Disorder: อาการวิตกทั้งกายและใจแบบไม่มีสิ่งกระตุ้น แล้วก็กลัวว่าจะเป็นอีก

 

6.  Agoraphobia : กลัวว่าสิ่งไม่ดีจะเกิดขึ้น และกลัวว่าจะหนีไม่ทัน

 

7. Generalized Anxiety Disorder : กลัวมากในเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน  

 

 

กลไกการเกิด ภาวะวิตกกังวล 

ความวิตกกังวล ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม จะมีกลไก ขั้นตอนการเกิดในลักษณะที่เหมือน ๆ กัน ซึ่ง Peplau 1989 แบ่งไว้ตามนี้ 

 

ขั้นที่ 1. คนเรามีความคาดหวัง และต้องการ 

 

ขั้นที่ 2. เกิดอุปสรรค หรือภาวะคุกคามใดใด 

 

ขั้นที่ 3. มีความรู้สึกหวั่นไหว สับสน คับข้องใจ คุณค่าในตัวเองลดลง 

 

ขั้นที่ 4.  มีการเปลี่ยนแปลงทั่วไป

 

4.1  ด้านจิตใจ อารมณ์ – เครียด กระวนกระวายใจ หงุดงิด โมโห 

 

4.2 ด้านชีวเคมี – ท้องผูก  นอนไม่หลับ ปั่นป่วนในกระเพราะ 

 

4.3  ด้านร่างกาย  – เกร็งกล้ามเนื้อ เหงื้อแตก กรีดร้อง  

 

ขั้นที่ 5.  แบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ 

 

5.1 คลี่คลายปัญหาได้ ค่อย ๆ ดีขึ้น 

 

5.2  หลีกเลี่ยงปัญหา ความวิตกกังวลก็ยังคงอยู่