เมื่อนึกถึงความรักคนเรามักจะคิดถึงแค่คนสองคน แต่โลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องของคนสองคนซ่ะทีเดียว เวลาที่เราเลิกกับใครสักคน การตัดใจ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เรามักจะมีคนรอบ ๆ ข้างที่เข้ามามีผลในตัดสินใจของเราร่วมด้วย

 

คุยกับนักจิตวิทยาคลินิก Alljit ร่วมกับ คุณรัชดาภรณ์ ศรีวิลัย นักจิตวิทยาคลินิก พูดคุยในทุกประเด็นในเรื่องสุขภาพใจ การตัดใจจากคนรักเราสามารถตัดสินใจคนเดียวได้ไหม? หรือควรฟังเสียงคนรอบข้างด้วย

การตัดใจ จากความรัก ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนจริงไหม? 

เราปฏิเสธไม่ได้ที่เวลามีคนมาพูดคุยสานสัมพันธ์กับเรา เราก็อยากที่จะเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อปรึกษาว่าดีหรือไม่ดี จึงเป็นเหตุผลที่เรามีคนรอบข้างเข้ามาเกี่ยวอยู่เสมอ ความรักที่ดูเหมือนสวยงาม

 

พอมีคนรอบข้างเข้ามาจึงมีปัจจัยบางอย่างเป็นเหตุผลให้ใครหลาย ๆ คู่ต้องยุติลง

 

เหตุผลที่เลิกกันทั้ง ๆ ที่ยังรักกันอยู่ เชื่อว่าในการตัดสินใจเลิกกันคงมีคนใดคนหนึ่งรู้สึกมากกว่าน้อยกว่า รู้สึกอยากจบความสัมพันธ์กับไม่อยากจบความสัมพันธ์ในครั้งนี้ สาเหตุของการเลิกลาจึงเกิดได้จากหลายปัจจัย

 

1. ความรักของเราสองคนไม่ใช่ของเราสองคนแต่มีปัจจัยคนรอบข้างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พอมีคนมาพูดถึงอีกคนของเรา คนนั้นก็อาจจะพูดหรือแสดงความคิดเห็นว่าเราควรเลือกทำอย่างไร พอมีคนรอบข้างเข้ามา

 

เราก็มักจะเลือกตัดสินใจไปตามแนวโน้มถ่วงด้านนั้นมากกว่า ถ้าเขาไม่ชอบคนของเราก็มักจะทำให้จบไปในทางที่ไม่ดีถึงแม้ใจจะยังรักอยู่มากแค่ไหนก็ตาม

 

2. เรายิ่งพยายามเรายิ่งเหนื่อย พยายามคุยเพื่อหาตรงกลางว่าควรจะออกมาเป็นรูปแบบไหนดี จนนำไปสู่การเลิกลา เลิกกันทั้ง ๆ ที่ยังรัก แต่ไปต่อกันไม่ได้แล้วจริง ๆ

 

คนบอกลาเจ็บปวดมากแค่ไหนคนฟังก็อาจจะเจ็บปวดมากกว่าเท่านั้น เพราะเขาไม่ได้เป็นคนเลือกที่จะทำแบบนี้

 

เหตุผลที่เลิกราอาจเข้ากันไม่ได้เพราะเรื่องเวลา ความห่างไกล ไลฟ์สไตล์ ที่ไม่สามารถไปต่อได้ตามที่เคยคิดหวัง ยิ่งฝืนยิ่งเจ็บปวด แต่ถ้ามีเหตุนี้เข้ามาทั้ง ๆ ที่เรายังไม่เคยปรับจูนกัน ก็มีความเป็นได้ว่าอาจมีสาเหตุอื่น

 

3. การมีคนรักเก่าเข้ามาเกี่ยวข้อง เราอาจเกิดข้อสัยว่าเมื่อแยกทางกันแล้วทำไมยังต้องติดต่อกัน แต่ความจริงอาจมีเหตุผล คือ เรื่องลูก หนี้สิน ทรัพย์สิน ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราอาจรู้สึกแอบเหนื่อยที่ต้องเจออะไรแบบนี้

 

ยิ่งถ้าเขามีความคิดชัดเจนเราอาจรู้สึกเหนื่อยกับการเจอเรื่องแบนนี้ทุก ๆ วัน เกิดความไม่ไว้ใจ การที่ฝืนตัวเองเพื่ออยู่ในความชัดเจนตรงนั้น การที่ต้องรับฟังเรื่องอดีตกับคนรักของเขา อาจจะเป็นอะไรที่ยากสำหรับเราที่ต้องเผชิญ

 

4. ระยะห่างเป็นช่องว่างทำให้เรากับเขารู้สึกว่าไม่สามารถอยู่ต่อกันได้อีกแล้ว ระยะทางในที่นี้หมายถึงตัวอยู่ใกล้กันแต่ไม่เคยรู้สึกว่าสิ่งนี้คือความใกล้ชิด

 

ยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ยิ่งห่างไกลกันมากเท่านั้น เราพยายามจะเข้าไปอยู่ส่วนหนึ่งของเขา แต่เขาดูไม่ค่อยยินดีที่จะมีเราอยู่ตรงน้ัน เราเลยเกิดความรู้สึกบางอย่างว่าเพราะอะไรเขาถึงทำให้เรารู้สึกแบบนั้น

 

ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้พูด แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกคือการกระทำของเขาที่บ่งบอกอย่างชัดเจน 

 

5. จุดอิ่มตัวของความรัก ถ้าเราต้องทนอยู่กับความรักที่มีจุดอิ่มตัว จนกลายเป็นความเคยชิน ละเลย ใส่ใจกันน้อยลง กลายเป็นของตายที่คิดว่าไม่มีทางจากกันไปไหนได้แน่ พอถึงจุดอิ่มตัวแบบนี้เมื่อไหร่ เราจะไม่สามารถไปต่อกันได้อีกแล้ว

 

เพราะเริ่มรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่มีอะไรน่าค้นหา ทุกอย่างดูธรรมดาและจืดชืดไปหมดซ่ะทุกอย่าง

 

อะไรบ้างที่ทำให้คนเราเลิกกัน 

เมื่อมีหลาย ๆ อย่างเข้ามาในชีวิต เราก็จะต้องคิดและเลือกที่จะเดินต่อหรือถอยหลังให้กัน เพราะชีวิตของคนเรายังต้องเดินต่อ แต่ถ้าวันนี้เรากับเขาไม่สามารถไปต่อได้ก็ต้องยุติความสันพันธ์

 

แต่สิ่งที่สำคัญคือเราต้องไปต่อและดูแลตัวเองให้ได้ กอดตัวเองให้เป็น รักตัวเองให้มาก ๆ มากเหมือนตอนที่เรารักเขา

 

การดูแลตัวเองที่ต้องเผชิญกับการจากลา เมื่อเลิกกันทั้ง ๆ ที่ยังรักกันอยู่ เลิกกันสักพักแต่ยังรู้สึกโหยหา

 

1. เคลียร์ความสันพันธ์ของตัวเองก่อน ถ้าเราเลิกกันแต่ยังติดต่อกันอยู่ นั่นคือกับดักความสันพันธ์ที่ทำให้เราไม่สามารถไปต่อได้ ต้องเคลียให้ชัดเจนว่าตอนนี้เรากับเขาอยู่ต่อในสถานะอะไร ความสัมพันธ์แบบไหนที่เหมาะกับเราทั้งคู่มากกว่ากัน

 

2. ยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว เรากับเขาไปต่อกันไม่ได้ เรากับเขาจบกันแล้วจริง ๆ ให้นึกคิดว่าเรายุติความสันพันธ์กันด้วยสาเหตุอะไร อยากให้พยายามเดินหน้าต่อไป ในที่ที่ทำให้เราไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้อีกแล้ว

 

3. เวลาที่เรารู้สึกอะไรก็ตามและความรู้สึกนั้นช่างเอ่อล้น อยากให้ระบายให้ใครสักคนฟัง เล่าเรื่องนั้นซ้ำ ๆ จะช่วยทำให้เรารู้สึกคลายความเศร้าลงได้บ้าง เวลาที่มีคนคอยรับฟัง เราจะไม่รู้โดดเดี่ยวที่ต้องเผชิญปัญหานั้นเพียงคนเดียว

 

4. อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป ถ้ายังเดินไม่ไหวค่อย ๆ คลานไปก่อนก็ได้ การกดดันจะทำให้เราจมปลักอยู่กับเรื่องเดิม ๆ ช่วงที่เราทำใจไม่ได้ เราจะยิ่งเจ็บ  พยายามปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าล้มก็ค่อย ๆ คลาน

 

หรือเกาะใครสักคนหนึ่งที่เขามาฉุดให้เราลุกขึ้นได้ ไม่ต้องรีบร้อนที่จะต้องออกจากความเจ็บปวดนั้นให้สำเร็จในทีเดียว เพราะเวลาจะช่วยเยียวยาทำให้เราค่อย ๆ รู้สึกเจ็บน้อยลง

 

5. พยายามพาตัวเองออกไปเจออะไรใหม่ ๆ การอยู่กับอะไรเดิม ๆ จะยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่ ทำให้หวนคิดถึงความรู้สึกเดิม ๆ จะยิ่งทำให้เราลืมเขาได้ยาก ตัดใจจากเขาได้ช้า เพราะฉะนั้นพาตัวเองไปเจอสภาพแวดล้อมดีที่ดี ๆ เพื่อตัวเราเอง

 

การตัดใจจากใครสักคน

ไม่ว่าเราจะเจ็บปวดมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าตอนนี้เราคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับใครเลย อย่าคิดแบบนั้นเลยค่ะ อย่าปิดกั้นตัวเองว่าประสบการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาจะทำให้เราไม่สามารถไปต่อกับใครได้อีกแล้ว

 

ถ้าทำแบบนั้นเหมือนเราไม่ให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่ ๆ กับคนดี ๆ แต่ถ้าหากการที่เราอยู่คนเดียวแล้วเรารู้สึกมีความสุขจังเลย นั่นถือเป็นสิ่งที่ดีมากอยู่แล้ว 

 

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า ความรักไม่ได้มีแค่ความสุขเท่านั้น เมื่อความรักเกิดขึ้นมักจะมีทั้งสุขและทุกข์เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต นั่นคือบททดสอบของความรัก บททดสอบของชีวิต แต่ถ้าคบกันต่อไปแล้วรู้สึกเหนื่อย ยื้อต่อไปไม่ไหว

 

อาจจะต้องลองเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้เหมาะสมกับเราทั้งคู่ ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนอย่าลืมที่จะชัดเจนเพื่อยุติความความสันพันธ์ครั้งนั้นให้สวยงาม เคลียหัวใจตัวเองเพื่อต้อนรับคนใหม่ ต้อนรับอะไรใหม่ ๆ เพื่อเป็นประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิตของเรา