เราควรทำอย่างไรในวันที่ ชีวิตคู่ เริ่มไม่เหมือนเดิม บทความนี้ Alljit ร่วมกับ คุณรัชดาภรณ์ ศรีวิลัย นักจิตวิทยาคลินิก พูดคุยทุกประเด็นในเรื่องสุขภาพใจ วิธีเช็คความสัมพันธ์ มีสัญญาณเตือนใดบ้างว่าเราต้องหันหน้าคุยกันเพื่อ “รักษาความสัมพันธ์ให้ราบรื่น”
ความสัมพันธ์ของคู่รักในแต่ละวันเปรียบเสมือนสุขภาพของจิตใจ บางทีเวลาที่เราคบกับใครสักคนเมื่อเวลาผ่าน อาจจะมีบ้างที่ความรู้สึกต่าง ๆ นั้นลดน้อยลง พูดคุยกันไม่เข้าใจเหมือนเดิม
หรือบางคนบั่นทอนกันมาก ๆ จนบางทีเหลือความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันมากกว่าความสัมพันธ์ที่ดี
สัญญาณเตือนของความสัมพันธ์ใน ชีวิตคู่
สัญญาณเตือนที่ช่วยชวนให้เห็นว่าชีวิตตคู่ของเราเริ่มเปลี่ยนไปคือ
1. การที่เรากับคนรักเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง ‘การคุยกันไม่รู้เรื่อง’
ในที่นี้หมายความว่า เวลาที่ทะเลาะกันเริ่มใช้คำพูดที่ทำลายจิตใจกันไหม หรือ บางคู่เวลาที่จะเลือกวิธีการไม่คุยกัน ไม่สื่อสารเพื่อหาจุดตรงกลางให้เข้าใจกัน
ซึ่งปัญหาของการทะเลาะแล้วไม่สื่อสารกันเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาใหญ่ ๆ เพราะจะทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักสั่นคลอนอยู่ภายใน
ในความสัมพันธ์ของหลาย ๆ คู่มักจะคุยกันได้หลายเรื่อง แต่เรื่องที่มักจะคุยกันไม่ได้คือ เรื่องของความรู้สึกของอีกฝ่าย
เพราะมักคิดกันว่าถ้าพูดออกไปจะทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนไป ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียใจ ซึ่งแท้จริงแล้วทางออกของความสัมพันธ์คือ การที่คู่รักต่างหันหน้าคุยกันเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ
2. เริ่มสื่อสารกันน้อยลง
การที่เราคุยกันทุกวันอาจจะทำให้เรารู้ว่า ในแต่ละวันของคู่รักของเราเขาทำอะไรบ้างในเวลานี้ เลยทำให้เราเลือกที่จะไม่ถามไถ่เขาเหมือนเดิม เริ่มใส่ใจกันน้อยลง แต่ในความจริงแล้วเราสามารถคุยกับเขาได้บ่อย ๆ เหมือนเดิมเหมือนตอนเริ่มคบกัน
อาจจะไม่บ่อยเท่าแต่การคุยกันเปรียบเหมือนการทำให้ความสัมพันธ์มีความห่วงใยและใส่ใจกันตลอดเวลา อีกฝ่ายที่ไม่ถามไถ่เหมือนเดิมอาจจะทำให้อีกคนรู้สึกชินชา และทำให้ความรู้สึกน้อยลงก็เป็นได้
3. ในความสัมพันธ์มีใครคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนไปหรือเปล่า
อาจจะเป็นตัวเราหรือตัวของคู่รักของเรา ในความรักของเราทุกคนไม่ว่าจะในความสัมพันธ์ของรูปแบบเพื่อนหรือแฟน จะมีการเปลี่ยนไปเสมอ เพราะตัวของเราในวันนี้อาจจะไม่เหมือนตัวเราในเมื่อวาน ความรู้สึกจะมีมากขึ้นหรือน้อยลงเปลี่ยนไปในแต่ละวัน
แต่ถ้าความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปจนกระทบอีกฝ่าย อาจจะต้องคอยสังเกตตัวเองและหาสาเหตุที่ทำให้ความรักกลับไปมั่นคงเหมือนเดิม
4. เริ่มรู้สึกว่าไม่อยากเจอ
ไม่อยากใช้เวลาร่วมกับคู่รักบ่อยขึ้น จากเดิมที่เคยอยากเจออยากไปเที่ยวด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับอยากมีระยะห่างกันมากขึ้น
5. ต่างคนต่างเปลี่ยนไปจากเดิม
อีกฝ่ายอาจจะคิดว่าอีกคนเปลี่ยนไป จึงทำให้ทำตัวเปลี่ยนไปตามอีกฝ่าย ต่างคนต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์
6. ทัศนคติและมุมมองที่ไปกันได้ แต่ไปกันได้ยาก
ทัศนคติและมุมมองมักทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ยอมกัน เพราะต่างฝ่ายต่างคิดทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุข ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะต้องยอมรับในความต่างของอีกฝ่าย และค่อย ๆ ปรับด้วยความเข้าใจกับความคิดและทัศนคติของคู่รัก
พอเราอยู่ด้วยความเข้าใจจะทำให้ไม่ต้อง “อยู่ด้วยความอดทน”
7. จุดมุ่งหมายในชีวิตเมื่อตัวเราโตขึ้น
เมื่อเราโตขึ้นจุดมุ่งหมายในชีวิต หรือเป้าหมายในชีวิตก็มักเปลี่ยนไป แต่อีกฝ่ายอาจจะไม่รู้สึกว่าอยากเปลี่ยน หรือทำตามเป้าหมายของตัวเอง ทำให้เกิดระยะห่างของความสัมพันธ์และจุดเปลี่ยน
เมื่อชีวิตคู่ ไม่มีความสุข เราทำอย่างไรดี?
1. มองกลับในไปวันแรกที่เรารู้จักกับเขา
วันที่เราเริ่มรู้สึกใจเต้นกับเขา มองย้อนกลับไปในข้อดีที่เราเคยเลือกให้เขามาอยู่ในชีวิตของเรา ถ้ายังนึกไม่ออกค่อย ๆ เขียนข้อดีของเขานึกถึงเรื่องราวที่เราเคยมีความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นกับคนรักของเรา เขียนเก็บไว้ดูในวันที่เรารู้สึกว่าตัวเรารู้สึกไม่เหมือนเดิม
ในวันที่เรามีความรู้สึกต่อเขาน้อยลง และเมื่อเราทบทวนแล้วเรามาตั้งคำถามกับตัวเองว่าเขายังใช่สำหรับเราอยู่ไหม ถ้าคำตอบคือเขาไม่ใช่สำหรับเราแล้ว จะทำให้เราตัดสินใจอะไรได้ง่ายมากขึ้นในความสัมพันธ์
2. หาช่วงเวลาที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน วางแผนทำกิจกรรมพิเศษทำร่วมกัน
เพื่อสร้างความสุข และกระชับความสัมพันธ์มากขึ้น ค่อย ๆ สำรวจความรู้สึกตัวเองว่าตอนนี้ที่เราได้ใช้เวลาทำอะไรดี ๆ ร่วมกับคู่รักของเรา เรายังมีความสุขเหมือนเดิมหรือเปล่า
ถ้าสำรวจแล้วยังเกิดสงสัยความรู้สึกคลุมเครือในตัวเองอยู่ อาจจะต้องทบทวนความรู้สึกตัวเองว่าเรายังอยากมีเขาอยู่ในชีวิตเราต่อไหม
3. ในความสัมพันธ์มีใครคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนไปหรือเปล่า
อาจจะเป็นตัวเราหรือตัวของคู่รักของเรา ในความรักของเราทุกคนไม่ว่าจะในความสัมพันธ์ของรูปแบบเพื่อนหรือแฟน จะมีการเปลี่ยนไปเสมอ เพราะตัวของเราในวันนี้อาจจะไม่เหมือนตัวเราในเมื่อวาน ความรู้สึกจะมีมากขึ้นหรือน้อยลงเปลี่ยนไปในแต่ละวัน
แต่ถ้าความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปจนกระทบอีกฝ่าย อาจจะต้องคอยสังเกตตัวเองและหาสาเหตุที่ทำให้ความรักกลับไปมั่นคงเหมือนเดิม
4. เริ่มรู้สึกว่าไม่อยากเจอ หรือไม่อยากใช้เวลาร่วมกับคู่รักบ่อยขึ้น
จากเดิมที่เคยอยากเจออยากไปเที่ยวด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับอยากมีระยะห่างกันมากขึ้น
5. ต่างคนต่างเปลี่ยนไปจากเดิม
อีกฝ่ายอาจจะคิดว่าอีกคนเปลี่ยนไป จึงทำให้ทำตัวเปลี่ยนไปตามอีกฝ่าย ต่างคนต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์
6. ทัศนคติและมุมมองที่ไปกันได้ แต่ไปกันได้ยาก
ทัศนคติและมุมมองมักทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ยอมกัน เพราะต่างฝ่ายต่างคิดทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุข ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะต้องยอมรับในความต่างของอีกฝ่าย
และค่อย ๆ ปรับด้วยความเข้าใจกับความคิดและทัศนคติของคู่รัก พอเราอยู่ด้วยความเข้าใจจะทำให้ไม่ต้อง “อยู่ด้วยความอดทน”
7. จุดมุ่งหมายในชีวิตเมื่อตัวเราโตขึ้น
เมื่อเราโตขึ้นจุดมุ่งหมายในชีวิต หรือเป้าหมายในชีวิตก็มักเปลี่ยนไป แต่อีกฝ่ายอาจจะไม่รู้สึกว่าอยากเปลี่ยน หรือทำตามเป้าหมายของตัวเอง ทำให้เกิดระยะห่างของความสัมพันธ์และจุดเปลี่ยน
ในวันที่ความสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนไป อย่าคิดโทษตัวเองหรือโทษคู่รักของเรา แต่อยากให้เราลองเริ่มจับต้นชนปลายถึงสาเหตุของเหล่าสัญญาณเตือนในความสัมพันธ์ว่า เกิดจากอะไรในชีวิตคู่ของเรา
เมื่อเราหาเจอแล้วก็เลือกหาวิธีที่ทำให้ความสัมพันธ์ของความรักของเรากลับมาราบรื่น และรักกันเหมือนเดิม
Post Views: 18,475