แอนิเมชั่นเรื่อง Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง ผลงานจากค่าย Pixar แอนิเมชั่นที่เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ยังตามหาตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ต้องการอะไร จนเกิดเป็นความสับสนเล็ก ๆ ในใจ

 

Alljit ร่วมกับ มิ้น พนิดา มิตรวงษา  จะมาแนะนำ รีวิว วิเคราะห์ ชวนทุกคนพูดคุยเกี่ยวกับ ซีรี่ส์ดีต่อใจเรื่องหนึ่ง ที่อาจจะทำให้วันของทุกคนเป็นวันที่ดีขึ้นได้

แอนิเมชั่นเรื่องนี้สอดแทรกปรัชญาชีวิตที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจได้ดี เหมาะกับทุกคนที่ยังไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าความหมายและเป้าหมายชีวิตคืออะไรกันแน่ 

 

เหมาะกับทุกวัย ไม่ว่าจะเด็ก,ผู้ใหญ่วัยทำงาน มีการเล่าเรื่องออกมาได้สร้างสรรค์ ครบรส ทั้งมุมฮา มุมซึ้ง และใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงความเป็นจริงได้ดี

Soul : ตัวละคร

1. โจ การ์ดเนอร์ 

ชายหนุ่มผิวสีที่รักดนตรีแจ๊สเป็นชีวิตจิตใจ โจเริ่มต้นความฝันในการเป็นนักดนตรีแจ๊ส จากการที่คุณพ่อพาไปดูนักดนตรีที่กำลังเล่นเปียโน

 

นั่นเป็นประสบการณ์ที่ทำให้โจรู้ว่านี่คือทางของตัวเอง “ฉันอยากเป็นแบบนั้นบ้าง” แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าโจจะไปออดิชั่นที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ

 

ทุกคนปฏิเสธความสามารถที่โจมี ทำให้โจผันตัวไปเป็นคุณครูสอนดนตรีแจ๊สอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่ใครจะไปรู้ ว่าอยู่ๆ เขาได้รับคำเชิญชวนให้ไปเล่นดนตรีในวงชื่อดังของ Dorothea Williams 

ในวันนั้น โจทิ้งหน้าที่การงานทุกอย่างไปแสดงฝีมือให้ Dorothea ได้เห็น และได้รับการตกลงให้ได้ร่วมเล่นดนตรีด้วยกัน ใครดูก็คงคิดว่า วันของโจมาถึงแล้ว ความฝันที่เขาเฝ้ารอกำลังจะเป็นจริง

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ โจเดินตกท่อ ทำให้วิญญาณออกจากร่าง

 

รู้ตัวอีกทีคือเห็นตนเองกำลังขึ้นบันไดเลื่อนไปบริเวณที่มีแสงจ้าขาว ๆ เหมือนกับทางไปสู่สุคติ โจตกใจและพยายามที่จะหนี เพราะอยากกลับโลกไปทำสิ่งที่ใฝ่ฝันมาตลอด 
 

หลังจากนั้นโจดั้นด้นจนตนเองได้ไปอยู่ในที่ที่เรียกว่า “The Great Before” ซึ่งสถานที่นี้ คล้ายทุ่งหญ้าสีหวาน ที่เต็มไปด้วยดวงวิญญาณ

 

มีไว้เพื่อให้จิตวิญญาณได้ค้นหา spark ของตัวเองภายใต้การดูแลของผู้ให้คำปรึกษา เพื่อให้มีความพร้อมไปสู่การใช้ชีวิตที่มีความสุขบนโลก

 

ข้างในจะมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมกีฬา กิจกรรมเชิงวิชาการ ไปถึงการทำอาหาร และอีกมากมาย 

2. จิตวิญญาณดวงที่ 22 หรือ 22

ตัวละครนี้สะท้อนถึงคนที่ไม่รู้จักตัวเอง และไม่เชื่อว่าตัวเองพร้อมที่จะใช้ชีวิตถ้ายังหาคำตอบเกี่ยวกับความหมายและเป้าหมายชีวิตไม่ได้  22 แสดงออกให้รู้ว่าตัวเองไม่เห็น point ของการมีชีวิต ไม่ชอบและไม่อยากไปโลก 

แต่สุดท้ายเกิดอุบัติเหตุวุ่น ๆ จนจิตวิญญาณของ 22 เข้าไปอยู่ในร่างโจ และจิตวิญญาณของโจได้เข้าไปอยู่ในร่างแมว

 

จากตรงนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นการทดลองใช้ชีวิตของ 22 เลยก็ว่าได้ เรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายโจได้กลับร่างไปทำสิ่งที่รอมาตลอด แต่พอจบงานกลับไม่รู้สึก “คอมพลีท” 

3. ลิบบา การ์ดเนอร์

แม่ของโจเหมือนเป็นตัวแทนของพ่อแม่ที่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ อยากเห็นลูกมีงานประจำที่มั่นคง จึงไม่เคยสนับสนุนการเลือกเส้นทางดนตรีของลูก ความคิดเห็นส่วนตัว

 

คิดว่าความหวังดีรูปแบบนี้ไม่ได้ดีต่อคนที่ถูกคาดหวังมากเท่าไหร่ ความรักความห่วงใยของคนเป็นพ่อเป็นแม่ มันดีมาก ๆ

 

เพราะแน่นอนว่าไม่ได้มีความหมายปองร้ายอะไรอื่น ๆ นอกจาก “อยากให้ลูกได้เจอกับสิ่งที่ดี ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขเท่านั้น” แต่การเปิดอิสระให้ลูกได้ตัดสินใจเอง ได้มีชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการก็สำคัญไม่แพ้กัน

 

ในยุคนี้ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและมีวิถีชีวิตหลากหลายให้เลือก ทำให้กรอบเดิม ๆ ที่ดีในยุคก่อนไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมและนำมาปรับใช้ในยุคนี้ได้เสมอไx

4. คอนนี่ 

คอนนี่เป็นเด็กนักเรียนคนหนึ่งในคลาสของโจ เป็นเด็กที่รักการเป่าทรอมโบนเป็นชีวิตจิตใจและมีพรสวรรค์ในด้านดนตรี มีฉากหนึ่งที่คอนนี่อินไปกับเสียงเพลงแล้วลุกขึ้นมาเป่าทรอมโบนตามใจในห้องเรียน

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ นักเรียนคนอื่น ๆ ในคลาสของโจต่างพากันหัวเราะ เราคิดว่านั่นน่าจะทำให้คอนนี่รู้สึกแย่และเสียความมั่นใจไปไม่น้อย

Soul : ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง

1. ค่านิยมที่สังคมยึดถือทำให้เราเชื่อว่าถ้าเราไม่รู้ความหมายและเป้าหมายชีวิตตัวเอง เท่ากับว่าเราเป็นคนไร้ค่า ไม่เพรียบพร้อม ไม่สมควรที่จะได้ใช้ชีวิต แต่ในความเป็นจริง อะไรพวกนี้ไม่ได้เป็นตัวบอกคุณค่าของชีวิตใครเลย

 

ชีวิตไม่ได้เป็นเรื่องของตามหาความหมายและเป้าหมายชีวิตอย่างเดียว ไม่รู้ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ชีวิตยังมีเรื่องดี ๆ ระหว่างทางมากมายให้เอนจอยเหมือนกัน

2. ชีวิตไม่ได้สมหวังตลอด

นอกจากจะได้เห็นความจริงนี้ผ่านชีวิตของโจแล้ว ชีวิตของ Dez ช่างตัดผมประจำของโจก็เช่นกัน ในตอนที่ 22 อยู่ในร่างของโจ 22 ได้ไปตัดผมกับ Dez

 

แล้วพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของ Dez เขาเล่าว่า ความจริงแล้วเขาอยากเป็นสัตว์แพทย์

 

แต่ลูกสาวป่วย จึงต้องนำเงินไปใช้เป็นค่ารักษา และในตอนนั้นค่าเล่าเรียนของโรงเรียนตัดผมราคาถูกกว่าด้วย เขาจึงตัดสินใจทิ้งสิ่งที่ตนเองต้องการ

22 ได้ฟังตอนแรกก็เข้าใจว่าเขาไม่มีความสุขแต่ Dez บอกไม่ใช่เลย เขาสามารถปรับตัวปรับใจได้และใช้ชีวิตกับเส้นทางใหม่ที่เลือกแล้วได้อย่างดีเยี่ยม

 

แถมยังบอกกับ 22 อีกว่า เขารักงานนี้เพราะเก้าอี้ตัดผมตรงหน้าทำให้ได้พบเจอกับคนน่าสนใจมากมาย และเขารักการทำให้ผู้อื่นมีความสุขที่เห็นตัวเองดูดี

ก่อนจากกันไป ทุกคนเคยได้ยินคำว่า “Carpe diem” ไหม? 

Carpe diem เป็นโควทภาษา Latin ถ้าแปลตรงตัวจะแปลว่า “เก็บเกี่ยววัน” โควทนี้มีความหมายเดียวกับ Seize the day หรือก็คือ

 

“อยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เรามีโอกาสที่จะทำให้วันนี้เป็นวันของเราแล้วก็ใช้ชีวิตให้ เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับอนาคต”

 

ขอให้ทุกคนทำวันนี้ให้ดีที่สุด ในแบบที่เราพอใจ ความคุ้มในการใช้ชีวิต ไม่ได้นับแค่เฉพาะเรื่องที่ตื่นเต้น เร้าใจเท่านั้น

 

สำหรับบางคน ชีวิตที่คุ้มค่า อาจไม่ใช่ชีวิตที่ร่ำรวย มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับมากมายก็ได้ ชีวิตที่มีเวลาว่างมากพอที่จะพาตัวเองไปนอนเฉย ๆ อยู่ที่ไหนสักที่

 

ถ้าสิ่งนั้นเป็นความต้องการของเราจริง ๆ อาจจะเรียกว่าการใช้ชีวิตที่คุ้มค่าแล้วเหมือนกัน