มนุษย์คิดลบ หรือจริงๆ แล้ว เราถูกสร้างมาให้คิดลบ การคิดลบมีข้อดีอย่างไร?
เรื่องAdminAlljitblog
มนุษย์คิดลบ หรือจริงๆ แล้ว เราถูกสร้างมาให้คิดลบ การคิดลบมีข้อดีอย่างไร? หลายๆคนรู้ว่าการคิดเชิงบวกดีกับตัวเองอย่างไร แต่ทำไมใจมันยังวนไปคิดแต่เรื่องแย่ๆ กับปัญหาที่แก้ไม่ตก …..แท้จริงแล้วการที่มนุษย์คิดในเชิงลบถือว่าเป็นเรื่องปกติ
มนุษย์คิดลบ หรือจริงๆ แล้ว เราถูกสร้างมาให้คิดลบ การคิดลบมีข้อดีอย่างไร?
อีกทั้งคำพูดที่เราเจอชีวิตประจำวัน ก็มีแนวโน้มสื่อไปในทางลบมากกว่า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่คนเราจะคิดในเชิงลบ รองศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ Robert W. Schrauf ที่มหาวิยาลัย Penn State ได้ทำการทำการศึกษาว่ามนุษย์คิดอย่างไรและประมวลผลอารมณ์อย่างไรกับคำพูด อย่างเช่นคำว่า Ewww, Boo ETC…..(Boo คำอุทานแสดงการเหยียดหยามการไม่เห็นด้วย ***แต่ศัพท์วัยรุ่นBooแปลว่าที่รัก)
ในการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยได้ขอให้ประชาชนที่อาศัยในชิคาโกและเม็กซิโกซิตี้ระบุชื่ออารมณ์ต่างๆ ที่พวกเขาคิดได้เองตามธรรมชาติ จากนั้นจึงจัดหมวดหมู่คำเหล่านี้ ให้เป็นเชิงลบ บวก และเป็นกลาง
พวกเขาค้นพบว่าผู้คนส่วนใหญ่(ที่มีอายุต่างกัน, ศาสนาวัฒนธรรมที่ต่างกัน,อาชีพที่ต่างกัน ) แต่ทุกคนล้วนแล้วรู้คำศัพท์ในการอธิบาย “อารมณ์เชิงลบ” มากกว่าคำที่อธิบายใน “อารมณ์เชิงบวก” หรือ “อารมณ์ที่เป็นกลาง” อย่างมีนัยสำคัญ
ในบรรดาคำศัพท์ทั้งหมดที่ผู้เข้าร่วมระบุไว้ 50 เปอร์เซ็นต์เป็นแง่ลบ 30 เปอร์เซ็นต์เป็นบวกและ 20 เปอร์เซ็นต์เป็นกลาง สิ่งนี้ยังชี้ให้เห็นว่าเราไม่เพียงแต่คิดในแง่ลบเท่านั้น แต่เรายังมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมกับอารมณ์เหล่านี้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย (มีอารมณ์ร่วมไปกับคำพูดนั้นๆอีกด้วย) ยิ่งมีอารมรณ์ร่วมมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งใช้เวลาไปกับการคิดลบมากขึ้นเท่านั้น
อารมณ์เชิงบวกบอกกับเราว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ok ฉันสบายใจ ไม่มีอะไรย่าเป็นห่วง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องคิดถึงมันอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ถึงแม้จะมีค่า แต่ก็มีน้อยเช่นกัน
ในทางกลับกัน อารมณ์เชิงลบบอกกับเราว่ามีบางอย่างผิดปกติ เราจึงมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจ ทุ่มเวลาของเราทั้งหมดไปกับการครุ่นคิดกับอารมณ์เชิงลบนั้นๆ
The benefits of negative thinking ข้อดีของการคิดลบ
จากงานวิจัยของ Tori Rodriguez นักจิตอายุรเวท ที่ได้ตีพิมพ์ในบทความของ Scientific American ซึ่งเธอได้อธิบายว่า การที่มนุษย์พยายามต่อต้านหรือเพิกเฉยต่อความเศร้า ความโกรธ หรือความอารมณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจต่างๆ มันสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีได้
“ความรู้สึกแย่มีความสำคัญพอๆ กับความรู้สึกดี”
Florida State University ศึกษาพบว่า ผู้คนที่พยายามต่อต้านความคิดเชิงลบ มักจะเจอกับความเครียดสะสมที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์เดิม ๆที่เป็นสาเหตุ
ข้อเสียของการไม่เปิดรับอารมณ์เชิงลบ
- อาจทำให้การตัดสินใจของคุณผิดพลาดได้ เพราะไม่ได้มองโลกตามความเป็นจริง (ปิดหูปิดตาคิดบวกอย่างเดียว)
- การพยายามต่อต้านความคิดลบ สามารถลดความรู้สึกพึงพอใจในตัวเองลงได้
ข้อดีของการเปิดรับอารมณ์เชิงลบ
- เมื่อมีอารมณ์เชิงลบเข้ามา แสดงว่าต้องมีปัญหาอะไรบางอย่างเกิดขึ้น อารมณ์เชิงลบมันเหมือนเป็นสัญญานเตือน ถึงสิ่งที่เราต้องให้ความสนใจและเราต้องเปลี่ยนแปลง
สุดท้ายแล้ว การต่อต้านความคิดเชิงลบและความรู้สึกเชิงลบ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราและทำให้เกิดความเครียดสะสมได้ เพราะว่ามันไม่ได้ผ่านกระบวนการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องTori Rodriguez กล่าวว่า “การยอมรับความคิดและอารมณ์เชิงลบ สามารถนำไปสู่ความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาและช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น”
เธอยังบอกอีกว่า เวลามีอารมณ์เชิงลบเข้ามา อย่างพึ่งไปต่อต้านมัน ให้รับรู้ถึงช่วงอารมณ์ ณ ตอนนั้น ว่าคุณรู้สึกยังไงกับตัวเอง ให้มีสติเขียนจดบันทึกความรู้สึกของคุณลงไปในสมุด ยิ่งคุณใช้สติมากเท่าไหร่คุณก็สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้มากขึ้นเท่านั้น
เมื่อมีความคิดลบเชิงเข้ามา >>> ยอมรับ เรียนรู้ >>> แก้ไข เปลี่ยนแปลง
8 ข้อดีของการคิดลบ
1. การคิดเชิงลบสามารถใช้เป็นแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตดีขึ้นได้
หนึ่งในแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลง คือการรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ความคิดเชิงลบสามารถกระตุ้นให้คนเราเห็นถึงปัญหา และหาวิธีที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า
2. การคิดเชิงลบทำให้เราเตรียมพร้อมกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
การคิดเชิงลบช่วยให้คุณจินตนาการถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น และคุณสามารถป้องกันไว้ก่อนเนิ่น ๆได้ ในหนังสือ Shoot for the Moon ของนักจิตวิทยา Richard Wiseman กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเป็นหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จ ในโครงการspace program ของสหรัฐฯ ในปี 1960
นักวิทยาศาสตร์จรวดในยุคนั้น ใช้ความคิดเชิงลบเพื่อจินตนาการถึงภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ จากนั้นพวกเขาก็แก้ไขการออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้น
3. การคิดเชิงลบช่วยทำให้การตัดสินใจของคุณดีขึ้น
จากการศึกษาพบว่าความสงสัยหรือการคิดในเชิงลบ สามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะว่ามันทำให้ครุ่นคิด หรือคิดช้าลง มีสติมากขึ้น มันเป็นกลไกทางธรรมชาติที่ว่า เมื่อเราคิดลบ เรามักจะหาข้อสันนิษฐาน คิดเชิงวิเคราะห์มากขึ้น ตัดสินใจตามหลักฐานและข้อมูล
ต่างจากคนที่มองโลกในแง่บวกมากเกินไป เพราะว่าคนพวกนี้จะคิดอะไรเป็นบวกหมด ทำให้มองไม่เห็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
- แชมป์โป๊กเกอร์กล่าวว่าการคิดเชิงลบสามารถขับเคลื่อนความสำเร็จได้จริง เมื่อต้องตัดสินใจ คนที่มีทักษะในการคิดเชิงลบ เขาจะมองเป็นภาพกว้าง และเขาจะมีแผนหนึ่ง, แผนสอง, แผนสาม เผื่อความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้น เขาจะเตรียมพร้อมในการรับมือ
4. การมองโลกในแง่ลบทำให้คุณซื่อสัตย์ต่อตนเอง
ความหมายก็คือ การไม่คิดเข้าข้างตัวเอง ไม่มองโลกสวยจนเกินไป(Positive Illusions) เพราะว่าบางครั้งการคิดเชิงบวกมากเกินไปสามารถยับยั้งความคิดสร้างสรรค์และไม่เปิดใจยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ได้
เคยเป็นไหมที่รักใครสักคนแล้ว เขาทำร้ายจิตใจของเรา แต่เราเลือกที่จะมองข้ามข้อเสียเหล่านั้นไป สิ่งนี้มันไม่ได้ดีต่อตัวคุณเลย คุณกำลังมองเขาในแบบที่ใจคุณคิด ไม่ใช่มองในแบบโลกแห่งความเป็นจริง บล็อกเกอร์ PT Guy Winch ผู้เขียน How to Fix a Broken Heart มีเคล็ดลับในการคิดเชิงลบที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังทำให้ตัวเองมีความสุขโดยการทำให้ลืมอดีตคนรัก แก้ไขโดยการเขียนรายการคุณสมบัติเชิงลบของบุคคลนั้นๆ แล้วเก็บไว้ในโทรศัพท์ของคุณและดูบ่อยๆ หัวใจที่แตกสลายของคุณจะเริ่มได้รับการเยียวยา มันจะช่วยให้คุณจะมองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น
5. การคิดในเชิงลบสามารถช่วยชีวิตคนได้
คนที่มองโลกในแง่ร้าย มักจะเป็นคนที่ไม่ประมาท และจะพยายามเตรียมตัว ซักซ้อม และวางแผนการต่างๆ ที่รัดกุมและตัดสินใจได้ดีมากกว่า การคิดในเชิงลบสามารถช่วยชีวิตคนได้ยังไง ?
ตัวอย่าง
- ผู้หญิงคนหนึ่งจอดรถทิ้งไว้โดยไม่ดับเครื่อง เพื่อที่เธอจะลงไปซื้อของที่ 7-11 ในขณะนั้นลูกๆของเธออยู่ในรถ (เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นจะเกิดละไรขึ้น ถ้าหากเป็นคนที่คิดเชิงลบเขาจะมีความระมัดระวังมากกว่านี้)
- ผู้ชายคนหนึ่งออกจากบ้านโดยไม่ได้ล็อคประตู เพราะว่าจะซื้อยาแค่หน้าปากซอย แป๊บเดียวเอง “และเพื่อนบ้านเขาก็ต่างเป็นคนดีกันทั้งนั้น” (เราคิดไปเองไม่ได้หรอก ว่าทุกคนจะเป็นคนดีและคิดบวกเหมือนกับเราหมด)
6. การคิดในเชิงลบสามารถลดความเสี่ยงในการโดนหลอก
ปัจจุบันนี้ Scammers หรือนักต้มตุ๋นเกลื่อนเมือง โดยเฉพาะทางโซเชียลมิเดียต่างๆ พวกนี้จะฉลาด พวกเขามีจิตวิทยาในการพูดให้คนหลงเชื่อ ถ้าคุณมีความคิดในเชิงลบ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ก็จะไม่มีใครสามารถมาหลอกคุณได้
7. การคิดในเชิงลบเพื่อกำจัดความกังวล
Julie Norem ผู้ทำวิจัยเรื่องกลยุทธการคิดลบเพื่อป้องกันเหตุร้ายให้สัมภาษณ์กับ The Atlantic ในปี 2014 ว่า เราสามารถใช้การคิดลบเพื่อเป็นกลยุทธจัดการความกังวล (anxiety) ได้โดยที่ไม่ทำให้ความกังวลนั้นส่งผลลบต่อชีวิต หากเราคิดลบเพื่อวางแผนไว้ก่อนว่าหากเกิดปัญหาขึ้น แล้วเราจะต้องจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร
- ยกตัวอย่างการใช้ในชีวิตจริงเช่นการเตรียมตัวเพื่อพูดในที่สาธารณะ คนคิดลบอาจกังวลไปก่อนล่วงหน้าว่าโอ๊ย ถ้าสมมติขึ้นไปพูดแล้วสะดุดล้มจะทำอย่างไรดี หรือถ้าปัดแก้วน้ำหกจะทำยังไง จะตอบคำถามผู้ชมได้ไหมฯลฯ แต่จะให้ดีคือกังวลแล้วต้องวางแผนแก้ปัญหาด้วย ….หากกลัวว่าจะสะดุดสายไมโครโฟนล้ม ก็อาจเอาเทปมาแปะกันไว้ก่อน หรือหากกลัวจะตอบคำถามผู้ชมไม่ได้ ก็อาจต้องศึกษาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราก็จะเปลี่ยนการคิดลบไปเป็นการเตรียมตัวที่ดีขึ้นได้
8. การคิดในเชิงลบสามารถช่วยให้คุณมีอายุที่ยืนยาวขึ้น
ความคิดในเชิงลบทำให้มนุษย์มีความคาดหวังน้อยลง ประมานว่ารู้ข้อจำกัดของตัวเอง และยอมรับความจริงมากขึ้นอีกด้วย เมื่อเราลดทุกอย่างให้น้อยลง เราจะมองเห็นอะไรมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์พบว่าผู้ที่มีความคาดหวังต่ำมักมีอายุที่ยืนยาว
การศึกษาในคน 40,000 คน ของFrieder R. Lang ผู้พบว่าการ “มองโลกในแง่ดีมากเกินไป” ในอนาคตพวกเขามีความเสี่ยงที่เสียชีวิตเร็วขึ้นหรือไม่ก็พิการ อีกงานวิจัยที่ตีพิมพ์โดย American Psychological Association พบว่าผู้ที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะเสี่ยงต่อการพิการมากขึ้น
งานวิจัยนี้เช่นเดียวกับงานวิจัยจำนวนมาก ไม่ได้พิสูจน์ความเป็นเหตุเป็นผล (causality) ซึ่งกันและกัน แต่เพียงแสดงความเกี่ยวเนื่อง (correlation) กันเท่านั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dailymail.co.uk/news/article-2285719/Why-negative-good-health-Pessimists-likely-live-longer.html
บทสรุป
เมื่อเรามองบางสิ่งเป็นลบหรือในแง่ร้ายดูบ้าง เราจะเห็นปัญหาอย่างแท้จริง และอาจเห็นปัญหามากว่าที่เป็นอยู่ประโยชน์ของมันคือ เราสามารถรับรู้ถึงปัญหาของมันได้อย่างถี่ถ้วนมากๆ และอาจมองเห็นปัญหาที่จะเกิดได้อนาคตจากการคิดล่วงหน้าหรือ การคิดไปก่อนหรือคิดไปเองตามที่ใครชอบพูดหรือชอบว่าเรา ว่า “คิดไปก่อนอีกแล้ว!”
จริงๆแล้วมีข้อดีอยู่มหาศาล การคิดไปก่อนก็เหมือนกับการคิดล่วงหน้า การวางแผนวางแพลนล่วงหน้า รวมไปถึง การเตรียมรับมือกับผลที่จะเกิดได้ขึ้นได้เป็นอย่าง ดี และProfessional เลยทีเดียว
แต่เราไม่ได้บอกว่าคุณต้องเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ถึงจะมีชีวิตดีได้ สิ่งที่จะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้จริงๆนั้นก็คือ การหาสมดุลระหว่างความคิดเชิงบวกและความคิดเชิงลบให้ได้ “ความสุขไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากความเศร้า”
Source
- https://www.weforum.org/agenda/2016/03/why-negative-thoughts-are-good-for-well-being/
- https://www.healthline.com/health/positive-side-negative-thinking#authenticity
- https://www.yogiapproved.com/negative-thinking-benefits/
- https://www.psychologytoday.com/us/blog/changepower/201912/9-positive-benefits-negative-thinking
- https://www.theatlantic.com/health/archive/2014/09/dont-think-positively/379993/
- https://www.dailymail.co.uk/news/article-2285719/Why-negative-good-health-Pessimists-likely-live-longer.html
Author: