มนุษย์เป็ด

ว่ากันด้วยเรื่องของ มนุษย์เป็ด

เรื่องAdminAlljitblog

มนุษย์เป็ด “แต่ละคนจะมีมุมมองของคำนี้แตกต่างกันไป บางคนอาจจะมองว่าการเป็นเป็ดนั้นเป็นเรื่องดี มีความสามารถรอบด้าน แต่กลับกันคนแบบเป็ดอาจจะถูกมองว่าไม่เอาไหน ไม่สุดสักอย่าง

 

การเป็นคนคนกลางๆ แบบมนุษย์เป็ด จะมีความสุขในแบบของเราได้อย่างไร?

ทัศนคติที่มีต่อ มนุษย์เป็ด เมื่อก่อน และปัจจุบัน 

สารบัญ

เมื่อก่อนเราจะรู้สึกว่าคำวาเป็ด เป็นคำพูดเชิงเสียดสี ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีกับการที่มีคนมาบอกว่าเราเป็นเป็ด เพราะมันดูไม่เก่งอะไรสักอย่าง ไม่เชี่ยวชาญอะไรสักทาง

 

แต่ในตอนนี้คำว่า มนุษย์เป็ด ดูจะเป็นคำเชิง positive เพราะในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย มนุษย์เป็ด กลับปรับตัวได้ดีในทุกสถานการณ์ ทำได้หลายอย่าง มีการพัฒนาที่ไม่สิ้นสุด 

 

 

จากหนังสือ วิถีผู้ชนะ ฉบับคนเก่งแบบเป็ด บอกไว้ว่า 

เมื่อ 20 ก่อน คนที่ประสบความสำเร็จ มักรู้สึกเก่งจริงในเรื่องเดียว แต่วิธีคิดนี้ กำลังล้าสมัยลงเรื่อย ๆ ผู้ชนะในสมัยใหม่กลับกลายเป็นเป็ด  ซึ่ง มีความสามารถรอบด้าน  นักธุรกิจตัวฉกาจ นักแสดงที่หลงไหล

 

หรือคนที่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน  มักไม่ได้เก่งที่สุด แต่เขามักเอาตัวรอด ในหลายด้าน จึงเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย และคว้าโอกาสใหม่ ๆ ได้เสมอ 

 

 

คนที่ไม่ใช่ มนุษย์เป็ด คือเก่งในด้านหนึ่ง ๆ ไปเลยใช่ไหม?

David Epstein ได้กล่าวในเวที Ted Talk เรื่องความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านไว้อย่างน่าสนใจว่า คนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ส่วนใหญ่จะฝึกความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องมาตั้งแต่ยังเด็ก

 

ภายใต้กฎที่เรียกว่า “10,000 ชั่วโมง” คือ เรามีความต้องการจะเชี่ยวชาญในด้านไหน ก็ต้องฝึกฝนด้านนั้น ๆ หรือหาความรู้ในด้านนั้น ๆ อย่างน้อย 10,000 ชั่วโมง

 

 

มีคำว่าอะไรที่ใช้เรียก มนุษย์เป็ด บ้าง 

1.“jack of all trades”

เป็นสำนวน ภาษาอังกฤษ  แปลว่า รู้อะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ไม่รู้จริง หรือ เก่งสักอย่างมาจากประโยคที่ว่า  “jack of all trades and master of none” แจ็คในที่นี่ หมายถึง คนธรรมดา ๆ คนนึง

 

ที่มีความรู้พื้นฐานหลากหลายด้าน เช่น การทำกิจกรรมได้ทุกกิจกรรม กีฬาก็ได้ ดนตรีก็ได้ แต่ในศตวรรษที่ 20 ได้มีคนเริ่มใช้สำนวน Jack of all trade and master of none ในเชิงกระแนะกระแหน

 

ว่าคนที่เป็นคนที่มีความสามารถและความรู้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เก่งสักเรื่อง  jack of all trades จึงสามารถใช้ในการชื่นชมและในเชิงกระแนะกระแหนนั่นเอง

 

ถ้าเราใช้คำว่า a jack of all trades is a master of none, but oftentimes better than a master of one. คือเติมประโยคต่อท้าย จะกลายเป็นคำชม บางครั้งเราอาจจะรู้สึกเจ็บปวดจากการเป็นเป็ดของเรา

 

ว่ามันไม่ถึง master แต่แบบไหนล่ะที่เรียกว่า master ใช้อะไรมาวัด บางครั้งความสามารถเราอาจจะเก่งกว่า master of one ก็ได้นะ

 

2.Multipotentialite

เป็นศัพท์ที่นักจิตวิทยาคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เดิมเป็นคำที่ให้ความหมายด้านลบ สื่อถึงคนที่ทำอะไรหลายอย่างแต่ไม่เก่งจริงซักอย่าง แต่ สามารถทำงานได้หลากหลายสาขา มีความรู้หลายอย่าง

 

ถึงแม้ว่าจะไม่เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม รวมถึงมีความยืดหยุ่น มีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และพร้อมเรียนรู้จะสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ไม่มีความแน่นอนได้ดีกว่า

 

3.Renaissance man

คนที่ชอบหลายอย่างและเก่งหลายด้าน หรือเป็นผู้รู้รอบด้าน  Renaissance ก็คือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ที่มีอัจฉริยะครอบจักรวาลอยู่หลายคน จนคำว่า Renaissance man เป็นที่เข้าใจกันดีว่า

 

หมายถึงคนที่มีความสามารถและเก่งในทุกด้าน  ตัวอย่างของ Renaissance man เช่น เลโอนาร์โด ดา วินชี, พีทาโกรัส, อริสโตเติล, อาร์คิมิดีส 

 

4.เก่งกว้าง

คือ คนที่เก่งหลาย ๆ อย่าง

 

5.พหูสูต 

คือ ผู้มีปัญญารอบรู้ ผู้รู้รอบด้าน เป็นปราชญ์เพราะเรียนรู้มามาก

 

พฤติกรรมของเป็ด  

1.มีความสนใจหลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ ด้าน 

2.มีความสามารถหลายอย่างแต่ไม่ถึงกับเชี่ยวชาญ

3.รู้ว่าไม่ชอบอะไร แต่ ไม่รู้ว่าชอบอะไร 

 

ข้อได้เปรียบของคนที่เราเรียกว่าเป็ด

1.ความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สามารถเชื่อมโยงสิ่งใหม่หรือสิ่งที่มีอยู่แม้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันให้ไปด้วยกันได้ ซึ่งนั่นเป็นผลพลอยได้จากการที่เราเคยทำมาหลายอย่าง

2.ความสามารถในการปรับตัว เรียกได้ว่า ปรับตัวได้เก่งกว่ากิ้งก่าเสียอีก ด้วยความที่มีสนใจในหลายด้านนั้น นำมาซึ่งประสบการณ์มากมาย ทำให้คนกลุ่มนี้สามารถปรับตัวได้ดีไม่ว่าจะสถานการณ์รูปแบบไหน

3.ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ชาว Multipotentialite เป็นคนเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ได้เร็วกว่าคนปกติ เพราะได้ผ่านประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ ทำให้มีพื้นฐานจากการลองทำผิดทำถูกในหลาย ๆ อย่าง

4.ความสามารถและทักษะหลากหลายด้าน ซึ่งเป็นคุณสมบัติในการทำงานของคนรุ่นใหม่

5.growth mindset

6.ในปัจจุบันองค์กรหลายองค์กรต้องการคนที่สามารถทำงานได้แบบ Multi-function 

 

กฎ 5 ข้อ ที่จะทำให้เราเก่งแบบเป็ด จากหนังสือ วิถีผู้ชนะ ฉบับคนเก่งแบบเป็ด 

1.เรียนทักษะหลาย ๆ ด้านแล้วใช้รวมกัน เช่น เรียน การตลาดออนไลน์มา หลังจากนั้นไป เรียน กราฟฟิค เพื่อทำคอนเท้้น หรือ AW ของตัวเอง 

2.แต่เราต้องเก่งลึก ในระยะสั้น  หมายถึง ถ้าเราลงเรียน คลาสกราฟฟิก ในช่วงเวลาหนึ่ง เราก็ต้องโฟกัส ตั้งใจในช่วงนั้น ไม่ใช่ ต้องเรียก จนเก่งที่สุด เรียน ยาาว ๆ  4 ปี 

3.เก่งแค่ 80 % ไม่ต้องถึง 100 % หรือเก่งเท่าที่ตั้งใจไว้ ให้สามารถนำไปใช้ได้  

4.โฟกัสแต่ทักษะจำเป็นที่ตั้งไว้  ดูว่าเราอยากจะเรียนรู้เรื่องอะไร แล้วนำไปใช้ทำอะไร 

5.หมั่นฝึกฝน เพื่อพัฒนาตัวเอง 

 

อยากทำอะไรให้สำเร็จทำอย่างไร

1.เริ่มจาก Keystone Habit 

Keystone Habit คือ กิจวัตรประจำวันของเราที่ดีที่จะนำไปสู่กิจวัตรประจำวันอื่นๆตามมา บทความจาก Forbes  นำเสนอเกี่ยวกับ Keystone Habit ไว้อย่างน่าสนใจว่า หากทุกวันที่ตื่นขึ้นโดยอัตโนมัติ

 

เมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เก็บที่นอนและพูดสิ่งดีๆ กับตัวเองในกระจก แสดงว่าเราได้ทำ Keystone Habit 3 อย่างที่ทำให้วันนั้นเป็นวันที่ดีขึ้นแล้ว เพราะกิจวัตรการตื่นนอนมีแนวโน้มที่จะส่งผลในเชิงบวก

 

ต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ ในทางกลับกัน ถ้าเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกขุ่นมัว หน้าบึ้งตึงใส่คนในครอบครัวและบทสนทนาเป็นไปทางนินทา นิสัยเหล่านี้ส่งผลเสียต่อด้านอื่นๆ ในชีวิต

 

ช่น ถ้าเราโต้เถียงกับคนในครอบครัวก็อาจจะนำไปสู่ความขุ่นเคืองใจ และการนินทาอาจนำไปสู่การเสียเวลาและกลายเป็นคนที่มีแต่การวิพากษ์วิจารณ์ มันก็จะวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ  

 

Keystone Habit  อย่างเช่น  การออกกำลังกาย เก็บที่นอน การเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลา หนังสือเรื่อง 5AM Club ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมี 3 stages :hard, messy and gorgeous stages.

 

คือการเปลี่ยนแปลงใดๆ จะยากในตอนแรก วุ่นวายเมื่อถึงจุดตรงกลาง และงดงามในตอนท้าย  การสร้างนิสัยที่ดีต้องใช้ willpower (ความอดทนอดกลั้น) จนกว่าจะถึงจุดที่เราทำมันแบบอัตโนมัติ

 

2.เขียน To do list สิ่งที่ตั้งใจทำและจัดลำดับให้มัน 

ลองทำอะไรทีละอย่าง เพราะบางครั้งเรามีแพลนในหัวเยอะเเยะไปหมด แต่ไม่ได้ถูดจัดระเบียบ การทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกันจะทำให้เราสับสนและเกิดความรู้สึกขี้เกียจ 

 

ถ้าตอนนี้ใครที่กำลังรู้สึกแย่กับการเป็นเป็ด อยากเป็นเป็ดที่มีความสุข ลองหันมาภูมิใจในการเป็นเป็ดของเรา การเป็นเป็ดหมายความว่าเรามีความสามารถที่หลากหลาย  ไม่หยุดที่จะเรียนรู้

 

เพราะคนเราไม่จำเป็นต้องเก่งอย่างเดียว แต่ถ้าตอนนี้เราอยากจะตอบตัวเองให้ได้ว่าชอบอะไรกันแน่  ลองสังเกตตัวเองให้มากขึ้นเวลาที่เราทำกิจกรรมนั้น ๆ เรารู้สึกว่าทำอะไรแล้วสบายใจที่สุด

 

ผ่อนคลายที่สุด เหมือนได้ชาร์จพลังงาน ถ้าได้คำตอบให้กับตัวเองแล้ว ลองยึดถือสิ่งนั้น นำมาต่อยอดไปเรื่อย ๆ ไม่แน่ว่าเราอาจจะเป็น Expert ในด้านนั้นเพิ่มก็ได้นะ

 

 

“คนกลางๆ แบบมนุษย์เป็ดก็มีความสุขในแบบของเราได้นะ:)”

 

 

ที่มา:

multipotentialite

มนุษย์เป็ด (คนเก่งหลายอย่าง แต่ไม่โฟกัสซักอัน) ตรงกับคำใดในภาษาอังกฤษ

why-being-a-jack-of-all-trades-is-essential-for-success

fix-your-keystone-habits-to-transform-your-life

โลกยังต้องการ “อัจฉริยะครอบจักรวาล” อยู่อีกหรือเปล่า ?