เป้าหมาย

New Year’s Resolution ผิดไหม? ที่ปีนี้ไม่มี เป้าหมาย

เรื่องAdminAlljitblog

New Year’s resolution หรือ การตั้ง เป้าหมาย ในปีใหม่ ปีใหม่แล้วก็อยากเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เป็นเราในแบบที่ดีขึ้น แต่จะทำอย่างไรให้ไม่กดดันตัวเองจนเกินไป? มาหาคำตอบกันในบทความนี้

 

Alljit X คุณรัชดาภรณ์ ศรีวิลัย นักจิตวิทยาคลินิก 🙂

วาง เป้าหมาย แล้วกดดันตัวเอง 

ความรู้สึกกดดันที่มาจากการตั้งเป้าหมาย อาจจะมาจาก “ความคาดหวัง” ส่วนหนึ่งด้วย เราอยากจะทำตรงนั้นมาก ๆ อยากให้มันเกิดขึ้นจริง จนเกิดเป็นความรู้สึกกดดัน

 

 

ทำไมต้องรอปีใหม่เพื่อตั้ง เป้าหมาย ?

เพราะปีใหม่เป็นเหมือน “จุดเริ่มต้นที่เป็นจุดเปลี่ยน” ทุกคนมองเห็นพร้อมกันว่า โอเค เปลี่ยนพ.ศ. ก็มาลองเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนไลฟ์สไตล์บ้างดีกว่า

 

มากไปกว่านั้น ช่วงสิ้นปีเรามีโอกาสได้รีวิวชีวิตตัวเอง แล้วนำมารีแคปสั้น ๆ กับตัวเองว่าในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร จะทำให้เห็นภาพว่า ทำอะไรไปบ้างเเล้ว 

 

ยังทำอะไรไม่ได้หรือทำไปแล้วเเต่ยังไม่เป็นในแบบที่อยากจะให้มันเป็น เราจะได้เห็นภาพตัวเองในปีนั้นและวางแผนภาพตัวเองในปีหน้า

 

และที่สำคัญเลย คือ ปีใหม่พอได้ตั้งเป้าหมายใหม่ เราจะมีแรงจูงใจในการอยากทำตามเป้าหมายมากขึ้น 

 

 

 

ตั้ง เป้าหมาย ให้สำเร็จ ตามนักจิตวิทยา

1. เป้าหมายนั้นเราต้องรู้สึกดีที่ได้ทำ

ต้องเริ่มจากสารตั้งต้นที่อยากให้ตัวเราดีขึ้น ทำแล้วรู้สึกดีกับตัวเอง เริ่มจากตรงนั้นได้เลย 

 

2. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

ต้องมีแรงจูงใจ ต้องชัดเจนกับตัวเอง ว่าทำตามนี้เเล้วดีอย่างไร ทำให้เราดีขึ้นอย่างไร  เช่น จะออกกำลัง 3 ครั้ง/สัปดาห์ เเล้วมันจะทำให้น้ำหนักลดลง

 

เราก็จะรู้สึกว่า จะผอมแล้วนะ! พอรู้สึกว่ามันเริ่มจะมีอะไรดี ๆ กลับมาก็จะพยายามมากขึ้น

 

3. เป้าหมายนั้นสามารถวัดผลได้

นอกจากการตั้งเป้าหมายต้องชัดเจนแล้ว มันต้องสามารถวัดผลได้ หาตัวที่บ่งบอกได้ว่า ไปถึงเป้าหมายนั้นแล้วและสามารถทำมันได้ อาจจะไม่ 100%

 

แต่เราก็เดินทางมาได้ประมาณนี้แหละ 30 – 40 % แล้ว จะทำให้ไม่ท้อกับเป้าหมายที่ตั้งและไม่กดดันตัวเอง ทุก ๆ เป้าหมาย ควรมีขั้นบันไดให้ตัวเองได้เดินขึ้นไปด้วย

 

 

ใช้ชีวิตแบบไม่ตั้งเป้าหมายได้ไหม ?

คงได้ แต่มันจะอยู่กับเราได้อย่างคงทนไหม เราใช้ชีวิตแบบ ตื่นตอนไหนก็ได้ กินตอนไหนก็ได้ หลับตอนไหนก็ได้ ในระยะสั้นคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นแบบนี้ไปสัก 1 เดือน

 

อาจจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของเรา  และแน่นอนว่า อาจจะขาดแรงจูงใจในการใช้ชีวิต อาจจะตั้ง To do list ในแต่ละวัน ว่าจะทำอะไรบ้าง อาจจะทำให้รู้สึกดีกับตัวเองมากกว่า

 

 

จะรับมือกับอุปสรรคยังไงดี ? 

  • มีสติ

          ไม่ว่าอะไรจะเข้ามา อย่างแรกก็คือ “สติ” เราสามารถจินตนาการกับมันได้ว่า มันควรจะเป็นยังไงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกมันมีความหวัง’

 

          แต่มันไม่ได้หมายความว่า ความเป็นจริงจะต้องเป็นแบบนั้น ถ้ามันไปถึงตรงนั้นเเล้วไม่ตรงกับที่วาดไว้ อันดับแรกคือต้องมีสติกับตัวเองก่อน

 

          เพราะมันทำให้สามารถคิด ทบทวน อย่างเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น 

 

  • ทบทวน : หลังจากมีสติ ต้อง “ทบทวน”

          1.เราตั้งเป้าหมายไม่สอดคล้องกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า

 

          2.สิ่งที่เกิดขึ้นเราอาจจะมองอุปสรรคได้ไม่รอบด้านหรือเปล่า

 

  • ลองใหม่

          ถ้าเดือนนี้ไม่ได้ มันไม่ได้หมายความว่าเดือนหน้าจะไม่ได้  เเล้วจะเลิกไป เราอาจจะมีแรงจูงใจไม่มากพอ จึงไม่ไปถึงเป้าหมาย

 

          อาจจะต้องมีบันไดให้กับตัวเอง มันจะทำให้ง่ายขึ้นและภาพที่เกิดขึ้นจะไม่ใหญ่เกินกำลัง

 

 

เมื่อรู้สึกเศร้าทุกเทศกาล

ถามตัวเองว่า “เกิดอะไรขึ้น”

 

คนทุกคนไม่ได้เอนจอยหรืออินกับทุก ๆ เทศกาลขนาดนั้น  เขาก็อาจจะแค่รู้สึกว่ามันแค่วันหนึ่งวัน ที่เกิดขึ้นแล้วเดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่ถ้ามีเทศกาลแล้วทำให้เรารู้สึกทุกข์

 

เรากำลังเอาตัวเองไปเชื่อมโยงกับอะไร มันก็เป็นวันที่มี 24 ชั่วโมงเหมือนกัน ลองค้นหาและถามตัวเองว่า ที่กำลังทุกข์อยู่ เรากำลังเอาความรู้สึกไปผูกกับเทศกาลเพราะอะไร…

 

 

อะไรที่ผ่านมาได้ หลังจากนี้เราก็จะผ่านไปได้เหมือนกัน:)