imaginary audiance

Imaginary Audience ความรู้สึกถูกจับจ้อง

เรื่องAdminAlljitblog

The Imaginary Audience รู้สึกว่าตัวเองถูกจับจ้องและถูกตัดสินอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลาย ๆ ครั้งเวลาทำอะไรที่เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอาย

 

จะรู้สึกอายอยู่นานเพราะคิดว่าคนอื่นตัองหัวเราะเยาะเราต้องนินทาเราแน่เลย เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรากันแน่ ? ที่ทำให้เราคิดแบบนี้ รู้สึกแบบนี้ คำอธิบายทางจิตวิทยาไหนไหมที่ตรงกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ ?

 

 

Imaginary Audience

 

“ผู้ชมในจินตนาการ” เป็นแนวคิดทางจิตวิทยาที่พบได้ทั่วไปในช่วงวัยรุ่น หมายถึง ความเชื่อที่ว่า ตัวเราอยู่ภายใต้การสังเกตอย่างใกล้ชิดจากคนรอบข้างและ คนแปลกหน้า 

 

พูดอย่างเข้าใจง่าย คือ เรารู้สึกถูกจับจ้องจากสายตาคนรอบข้าง คนรอบข้างมักมองและสนใจเรา ซึ่งในความเป็นจริง มีคนเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีความสนใจในกิจกรรมของผู้อื่น

 

เมื่อเราเติบโตขึ้น เราจะค่อย ๆ ลด  Imaginary Audience หรือผู้ชมในจินตนานการ ของเราลง อย่างไรก็ตามบางคนยังคงเข้าใจผิดแบบนี้จนถึงวัยผู้ใหญ่ 

 

อีกปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง คือ Adolescent Egocentrism ที่วัยรุ่นมักจะเชื่อว่าโลกหมุนรอบตัวเอง ทุกคนสนใจเขา ซึ่งความเชื่อเหล่านี้จะทำให้ความมั่นใจในตัวเองสั่นคลอน

 

 

Spotlight effect

 

Spotlight Effect เป็นคำที่นักจิตวิทยาสังคมใช้อ้างถึงแนวโน้มที่คิดว่าคนอื่นคอยสังเกตดูตัวเรา มองเห็นความผิดพลาด ข้อบกพร่องทั้งหมดของเรา

 

โดยคิดว่าตัวเองเป็นจุดสนใจของผู้อื่น มีสปอตไลท์ส่องมาที่ตัวเองตลอดเวลา  ทฤษฎีนี้ผ่านการทดลองเมื่อ ปี 2000 จาก โทมัส กิโลวิช ศาสตราจารย์จิตวิทยา ที่ให้เด็กที่เข้าเรียนสายใส่เสื้อยืดลายที่เด่นมาก ๆ

 

เด็กที่มาสายจะคิดว่าตัวเองต้องถูกล้อเรื่องเสื้อและ คิดว่าต้องมีคนจำลายเสื้อได้มากกว่า 50% แน่นอน แต่ความจริงมีคนสนใจและจดจำได้แค่ 25% เท่านั้น

 

ทั้งหมดนี้มันเป็นกลไกของจิตใจ เรามักคิดว่าคนรอบตัวเพ่งความสนใจมาที่เรา ทั้งที่ความจริงตัวเรานั่นแหละที่คิดไปเอง  

 

 

“ผู้ชมในจินตนาการ”คำนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

 

ผู้ที่สร้างคำว่า “ผู้ชมในจินตนาการ”  ในช่วงปี 1967  คือ David Elkind นักจิตวิทยาพัฒนาการ และศาสตราจารย์กิตติคุณที่ Tufts University 

 

เขาใช้เวลาหลายปีทำงาน สังเกตว่าเด็ก ๆ ที่มีปัญหา มักจะพยายามสร้างความประทับใจให้กับผู้คนรอบตัว และคิดว่าผู้คนรอบตัวให้ความสนใจในทุกการเคลื่อนไหว

 

เขาเริ่มศึกษาเรื่องนี้และพบว่า ความคิดที่คนอื่นกำลังดูอยู่นั้นผูกติดอยู่กับพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็ก 

 

วัยรุ่นมักเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างกาย อารมณ์ บทบาทในสังคม  และพวกเขาคิดมากเกี่ยวกับตัวเองในช่วงเวลานั้น

 

เมื่อพวกเขาสงสัยว่าคนอื่นคิดอย่างไร พวกเขาจะกลับทบทวนตัวเอง และสรุปว่า ผู้คนต้องคิดในสิ่งที่เขาคิดเหมือนกันแน่ ๆ เกี่ยวกับตัวเอง 

 

ผู้ชมในจินตนานการ มีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งขึ้นในเด็กที่มีความนับถือตนเองต่ำกว่าและในเด็กผู้หญิง  ตัวอย่างเช่น

 

“บางครั้งตอนที่ฉันอยู่ในร้านอาหาร หยิบส้อมแล้วมันก็กระทบกัน “ฉันคิดว่าทุกคนกำลังมองดูฉันอยู่และคิดว่าฉันเป็นคนบ้า” เขาพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก 

 

“เมื่อใดก็ตามที่เราอยู่ในสถานการณ์ทางสังคมใหม่ ๆ  เราจะตระหนักถึงคนอื่นเป็นพิเศษและว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับเรา”

 

 

แนวทางการแก้ไข 

 

1. ท้าทายความคิดตัวเอง

 

เราจำความผิดพลาดอะไรของคนอื่นได้บ้าง ? หากคำตอบคือไม่มี นั่นอาจหมายความว่า เราไม่ได้ทำอะไรที่ถูกจับจ้องแบบที่เราคิด 

 

2. ปรับความคิดและ ความเชื่อที่ทำให้เกิดปัญหา

 

ปัญหาควรแก้ที่ต้นเหตุ  ลองกลับมาทบทวนกับตัวเอง  ว่าทุกคนหันความสนใจมาที่เราจริง ๆ ไหม หรือเป็นแค่เราที่คิดไปเอง 

 

3. ให้เวลาตัวเองได้เติบโตขึ้น 

 

ในบางเรื่องราวอาจจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นแต่เมื่อเราเติบโตขึ้น เราอาจเรียนรู้ได้ด้วยประสบการณ์ว่า “ไม่มีใครสนใจเราขนาดนั้น”

 

 

ที่มา :

When the imaginaryaudience becomes more real

Understanding Adolescent Egocentrism

What is imaginaryaudience

 

บทความที่น่าสนใจ