Stockholm Syndrome การหลงรักผู้ร้ายมีจริง ๆ หรอ?

เรื่องAdminAlljitblog

เคยดูละครดัง เช่น จำเลยรัก,เกมส์ร้ายเกมส์รัก,Beauty and the Beast  ทรชนคนปล้นโลก

 

ที่พระเอกจะร้ายกาจ ทำร้ายจิตใจ ทำร้ายร่างกาย เป็นโจรปล้น แต่ทำไมเรายังรัก เพราะเขาหล่อ หรือเพราะมีเสน่ห์ หรือเพราะเป็นละคร

 

stockholm syndrom

 

 แต่ในชีวิตจริงมีเกิดขึ้นเหมือนกันนะ มีคำเรียกว่า Stockholm Syndrome

 

 

Stockholm Syndrome

แนวคิดพื้นฐานของ Stockholm Syndrome คือ ความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ภายใต้การกดขี่หรือถูกทำร้าย

 

เป็นอาการของคนที่ตกเป็นเชลยหรือตัวประกันเกิดมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ คนที่เป็นคนร้ายหลังจากต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันระยะหนึ่ง 

 

โดยความรุนแรงและการกดขี่เหล่านี้อาจมาในรูปแบบของคำพูด การทำร้ายร่างกาย การล่วงละเมิดทางเพศ หรือการลิดรอนสิทธิ์บางอย่างในตัวเหยื่อ 

 

สิ่งเหล่านี้เกิดได้ทุกวันและอาจต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จึงอาจเพิ่มรอยแผลและความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับเหยื่อได้

 

แต่เมื่อผู้ที่กดขี่แสดงความเห็นใจ แม้จะเล็กน้อยก็อาจทำให้เหยื่อรู้สึกถึงความดีและ เจตนาที่ดีของผู้กระทำจนทำให้เกิดความผูกพันหรือความรักในที่สุด

 

ดังนั้น Stockholm Syndrome อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวสักเท่าไร

 

Stockholm เป็นกลไกในการรับมือกับสถานการณ์ที่ถูกคุมขังหรือถูกทารุณกรรม ซึ่งคน ๆ นึงสามารถพัฒนาเป็นความรู้สึกเชิงบวกต่อผู้จับกุมหรือผู้ทารุณกรรม

 

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนถือว่าความรู้สึกเชิงบวกของเหยื่อที่มีต่อผู้ทำร้ายนั้นเป็นการตอบสนองทางจิตใจ

 

เป็นกลไกในการรับมือ ที่พวกเขาใช้เพื่อเอาตัวรอดจากบาดแผลทางใจหรือถูกทารุณกรรมเป็นเวลาหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือแม้แต่หลายปี

 

 

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอาการตกหลุมรักหรือผูกพันอาการนี้อาจค่อย ๆ เกิดขึ้นตามระยะเวลาที่ถูกลักพาตัวหรือถูกทำร้าย

 

โดยทั้งเหยื่อและผู้ร้ายอาจเกิดความผูกพันหรือเกิดความเห็นใจซึ่งกันและกันจากระยะเวลาที่ได้อยู่ร่วมกัน

 

 

ทำไมถึงชื่อ Stockholm Syndrome

Stockholm Syndrome ถูกพบและตั้งชื่อครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1973 ณ เมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อเกิดเหตุการณ์ปล้นธนาคาร

 

และโจรได้จับตัวประกันไว้ 4 คน แต่เมื่อคดีถูกสะสาง ตัวประกันที่ถูกลักพาตัวไป ปฏิเสธในการเป็นพยาน

 

รวมทั้งหาเงินเพื่อสนับสนุนผู้ก่อเหตุอีกด้วย นับแต่นั้นมาอาการที่เหยื่อเกิดความเห็นใจหรือรู้สึกทางบวกกับผู้ก่อเหตุจึงมักเรียกกันว่า Stockholm Syndrome

 

โดยเป็นไปได้ว่าความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้อาจมีมานาน แต่ไม่ได้มีนิยามหรือการตั้งชื่อเรียกที่ชัดเจน

 

 

อาการของ Stockholm Syndrome

Stockholm เป็นปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนและมักเข้าใจผิด Stockholm ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นภาวะสุขภาพจิต

 

ตามคู่มือการวินิจฉัยและสถิติความผิดปกติทางจิต สมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (APA) มองว่านี่เป็นการตอบสนองทางจิตใจและอารมณ์แทน

 

  • พัฒนาความรู้สึกเชิงบวกต่อบุคคลที่จับพวกเขาไว้เป็นเชลยหรือทำร้ายพวกเขา

 

  • มีความรู้สึกด้านลบต่อตำรวจ เจ้าหน้าที่ หรือใครก็ตามที่อาจพยายามช่วยพวกเขา หลุดพ้นจากผู้จับกุม พวก เขาอาจปฏิเสธที่จะร่วมมือกับผู้จับกุมด้วยซ้ำ

 

  • เหยื่อเริ่มรับรู้ความเป็นมนุษย์ของผู้จับกุมและ เชื่อว่าพวกเขามีเป้าหมายและค่านิยมเดียวกัน

 

 

สถานการณ์ 

 

ในที่ทำงาน

 

ในบริบทนี้ อาจหมายถึงความผูกพันทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง แม้ในสถานการณ์ที่นายจ้างผิด หรือแสวงหาผลประโยชน์ก็ตาม

 

ในที่ทำงานอาจรู้สึกติดอยู่ในงานเนื่องจากเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือในทางปฏิบัติอื่น ๆ และอาจต้องพึ่งพานายจ้างทางอารมณ์

 

อาจนำไปสู่การที่พนักงานระบุตัวตน และปกป้องนายจ้างได้ แม้ว่าจะเผชิญกับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมหรือการละเมิดก็ตาม

 

 

ในครอบครัว  

 

เกิดขึ้นได้ในบางครอบครัว เพราะว่าบางครั้งพ่อแม่ พี่น้องอาจจะทำร้ายจิตใจ หรือถึงขั้นทำร้ายร่างกาย แต่พอเขาทำดีกับเรา หรือใช้เหตุผลว่ารัก เป็นห่วง เราก็จะยอม เราก็จะรู้สึกดี 

 

 

ในความสัมพันธ์ 

 

ลองนึกถึงละคร จำเลยรัก ที่ตอนแรกนางเอกโดนขืนใจทั้งร่างกายและได้รับคำพูดที่กระทบจิตใจ แต่พอเรารู้ถึงที่มาสาเหตุว่าทำไมเขาเป็นแบบนั้น

 

กลับอ่อนใจและรักหลงรัก ทั้ง ๆที่การกระทำที่เขาทำมาคือการกระทำที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเพราะความรัก ความหวาดกลัว ทำให้บางทีผู้ถูกกระทำลืมไปว่าเรากำลังตกเป็นเหยื่อ

 

 

ที่มา :

Stockholm Syndrome สต็อกโฮล์มซินโดรม ความสัมพันธ์จากความเจ็บปวด

The Stockholm Syndrome: From Victim to Survivor

How did Stockholm syndrome get its name?