มีรายการชื่อว่า Cinema Therapy ที่จิตแพทย์ดู Godzilla ภาคใหม่ แล้วพูดถึงประเด็นที่เรียกว่า Survival Guilt
เป็นศัพท์ที่แปลกใหม่ดี ไม่เคยได้ยิน แล้วพอหาข้อมูลมามันก็เป็นอะไรที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด เลยอยากชวนมาทำความรู้จักกัน
Survivor Guilt
เป็นสภาวะที่พบเจอได้บ่อยในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรง เช่น ทหารผ่านศึก หรือผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุ เหตุสังหารหมู่
ผู้ที่รอดชีวิตรู้สึกไม่สมเหตุสมผลที่ตัวเองรอดในขณะที่คนข้างกายเสียชีวิต เกิดความละอาย คิดว่าตัวเองไม่สมควรรอด
และรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องช่วยเหลือคนอื่นๆ นึกย้อนไปว่าในตอนนั้นควรทำอะไรได้มากกว่านี้ โทษตัวเอง
และเกิดความคิดว่า การกระทำของตนส่งผลต่อความทุกข์ทรมานของคนอื่น
ไม่ใช่โรคทางการแพทย์ แต่เป็นสภาวะที่บุคคลหนึ่งเผชิญและต้องได้รับการดูแลรักษา
งานวิจัยพบว่าหลายคนที่มี Survivor Guilt เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้
แต่ก็ยังรู้สึกผิดและคิดว่าตัวเองควรช่วยได้มากว่าที่ได้ทำลงไป รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
การรู้สึก Survivor Guilt สามารถนำไปสู่อาการ PTSD ได้ PTSD คือ ภาวะที่ได้รับบาดแผลทางจิตใจจนเกิดความผิดปกติทางอารมณ์ หลังจากผ่านเหตุการณ์รุนแรง สะเทือนใจมาหนักๆ
ทำไมถึงผิดหวังที่ยังมีชีวิต
คนที่พื้นนิสัยเป็นคนขี้กังวล เป็น People Pleaser หรือ Self-Esteem ต่ำ ยิ่งเกิด Survivor Guilt ง่าย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกผิดที่คนอื่นทนทุกข์แม้จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดเรามาจากสิ่งที่เรียกว่า…
Mirror Neurons เป็นกระบวนการที่สมองเลียนแบบความรู้สึก/พฤติกรรมของอีกฝ่ายที่เรามองอยู่
เรียกอีกชื่อว่า complex Empathy = ถ้าเราเห็นคนที่เรารักเจ็บปวด กระบวนการในสมองจะลอกเลียนไปโดยธรรมชาติจนเรารู้สึกเจ็บปวดไปด้วย
มันก็จะวนไปที่เรื่อง Empathy และ สัตว์สังคม ซึ่งเป็น Quality พื้นฐานของมนุษย์ที่เราเคยพูดถึงกัน
ในทางจิตวิทยา คนที่มี Empathy หรือความเห็นอกเห็นใจ จะเกิดความรู้สึดผิดได้ง่าย
ด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม สังคมเราก็ต้องการคนที่มีความรับผิดชอบ
คนที่มีจิตสำนึกคุณธรรม และคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งคนเหล่านี้จะเกิดความรู้สึกผิดได้ง่ายเหมือนกัน
อีกสาเหตุ คือ บางคนอาจจะรู้สึกผิดเพราะมีคนอื่นมาพูดใส่ด้วย เช่น สังคมกดดันให้เราต้องรับผิดชอบ ต่อว่า ตำหนิ
มันก็อาจจะทำให้คนที่รอดยิ่งรู้สึกแย่หรือกระตุ้นความรู้สึกผิดนั้น แต่บอกก่อนว่าถ้ารู้สึกผิดในระดับที่สมควรรู้สึกผิด
แบบนึกถึงใจเขาใจเราอะ มันโอเคที่จะรู้สึกนะ แต่ถ้ารู้สึกผิดจนทำร้ายตัวเอง ให้อภัยตัวเองไม่ได้ อันนี้ต้องหาทางออกให้ตัวเอง รวมถึงคนรอบข้างก็ต้องซัพพอร์ตความรู้สึกด้วย
Survival guilt ในปัจจุบัน
หลายคนอาจจะคิดว่าไกลตัว แบบเราไม่ใช่ทหาร เราไม่ได้ผ่านเหตุภัยพิบัติอะไรใหญ่หลวง เราก็ไม่น่าเป็น แต่จริงๆ แล้ว Survivor Guilt มันใกล้ตัวกว่านั้นอีก
คำว่า Survivor Guilt จะเขียนว่า Survivor’s Guilt ที่แปลว่า ความรู้สึกผิดของผู้รอดชีวิต เพราะแต่ก่อนมันเป็นสภาวะที่เกิดกับผู้รอดจากเหตุการณ์ร้ายแรง
ในปัจจุบันนิยามกว้างขึ้น สามารถใช้เรียกสภาวะหรือความรู้สึกแย่ที่ชีวิตตัวเองไปได้ดีในขณะที่เพื่อน คนรัก หรือคนรู้จักของเรากำลังลำบากอยู่ ซึ่งเป็นอะไรที่ชีวิตประจำวันมากขึ้น
เช่น
- เราได้ไปแข่งวิ่ง ในขณะที่เพื่อนของเราที่ควรจะได้ไปแข่งด้วยกันกลับไม่ได้ไป อาจจะเพราะเขาประสบอุบัติเหตุ ไม่สบายกระทันหัน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เขามาแข่งกับเราไม่ได้ เราเองก้รู้สึกผิดที่โชคชะตาเข้าข้างเรา ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงดวงตกในขณะที่เราดวงดีขึ้นเรื่อยๆ
- ไปสมัครงานด้วยกันกับเพื่อน แต่ตัวเองได้งาน
- ชนะการประกวด ในขณะที่เพื่อนแขนซ้นเลยประกวดไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดี
- ได้งานใหม่ในขณะที่แม่กำลังอาการทรุดลง
- ตัวอย่างอีกอันที่ค่อนข้างใกล้ตัวคือช่วงโควิดที่เพื่อนร่วมงานโดนไล่ออกแต่เรายังไม่โดน
มันคือความรู้สึกผิดที่ตัวเราไปได้ดี ประสบความสำเร็จ มีโชค หรือเป็นทุกข์น้อยกว่า ในขณะที่คนที่เรารักหรือใส่ใจกำลังเผชิญกับความลำบาก
จนอาจจะเกิดความคิดที่ว่า เพราะเราเขาถึงได้เป็นทุข์ ความสำเร็จของเราทำให้คนอื่นไม่เป็นสุข นำไปสู่ความรู้สึกไร้ค่า คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับสิ่งต่างๆ
บางครั้งเราเลยจะทำตัวให้เด่นน้อยลง ลดความสำเร็จของเรา บางครั้งอาจถึงขั้นทำลายชีวิตของตัวเอง (Self-Sabotage) เพราะรู้สึกผิดที่เราไปได้ดีกว่าคนรัก
จากคำว่า Survivor’s Guilt ที่แปลว่า ความรู้สึกผิดของผู้รอดชีวิต
ปัจจุบันก็ถูกเปลี่ยนเป็น Survivor Guilt ที่ไม่มี ‘s ที่แปลว่า ความรู้สึกผิดที่รอดชีวิต
มีอีกคำที่ความหมายใกล้ๆ กัน คือ Happiness Guilt ตรงตัวเลยคือ
ความรู้สึกผิดที่ตัวเองมีความสุขหรือยิ้มได้ในขณะที่คนอื่นๆ หรือบริบทรอบตัวมันกำลังหม่นหมองและอมทุกข์
การดูแลตัวเอง
1. สังเกตและรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่าจะโกรธ เสียใจ หรือกังวล รับรู้ว่าเรามีมันอยู่ ยอมรับว่าเรามีความรู้สึกผิดที่เรารอดหรือประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น
2. กลับมาดูแลใจตัวเอง อย่าลืมว่าเราก้ผ่านความยากลำบากมาเหมือนกัน ถึงเราจะรอดแต่เราก็บาดเจ็บไม่ว่าจะกายหรือใจ
เราสูญเสียเหมือนกัน เอาความเห็นอกเห็นใจที่เรามีต่อคนอื่น แบ่งมันกลับมาใช้กับตัวเองบ้าง (Positive Self-Talk: แกเก่งมากแล้ว แกทำเต็มที่แล้ว)
3. เวลาที่อยู่ใกล้คนที่ทนทุกข์ ทุกครั้งที่หายใจเข้า จิตนาการว่าเราสูบความทรมานและความทนทุขของเขาเข้าไป อาจจะจินตนาการเป็นควันดำ
จินตนาการว่ามันเข้าไปทางจมูก เข้าไปในใจเราแล้วก้แตกสลายและถูกย่อยไป แล้วหายใจเอาความสุขทั้งหมดของเราออกมา
อาจจินตนาการเป็นควันขาว นึกภาพว่ามันรายล้อมคนที่เรารัก นึกภาพว่าความสุขและความโชคดีที่เรามีแผ่หยายไปหาเขา ฝึกนึกภาพนี้บ่อยๆจนเป็นธรรมชาติ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่มีใครควบคุมได้ ดังนั้นเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ฝึกการให้อภัยตัวเอง
กลับมามองเห็นคุณค่าในตนเองหลังจากยอมรับความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าก็เป็นเรื่องยาก เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาก็ค่อย ๆ ให้เวลากับตัวเอง
ที่มา :
Blog ของ Hist Talk ที่นี่มีเรื่องเล่า วันที่ 1 มี.ค. 2022
Godzilla and the Birth of Modern Environmentalism
Survivor Guilt
How to Live with Survivor Guilt
รู้สึกผิด ไม่กล้ามีความสุข : Happiness Guilt เมื่อรัฐแย่ๆ ทำให้เราไม่กล้ามีความสุข
Post Views: 793