เคยไหม ? รู้สึก ” ขอบคุณ ” บางสิ่งบางอย่างจากใจจริง… แต่บางครั้งในช่วงเวลาที่แย่มาก ๆ เราก็หาเรื่องราวดี ๆ ให้ขอบคุณไม่ได้เลย บางทีเราขอบคุณทุก ๆ อย่าง แต่กลับลืมไปว่า ‘ตัวเอง’ คือคนลืมขอบคุณมากที่สุด
เมื่อเริ่มต้น ขอบคุณ อาจได้ความสุขกลับมา
David Steindl-Rast (เดวิด สไตน์เดิล-ราสต์) กล่าวว่า ” The root of joy is gratefulness ” หลาย ๆ คนคิดว่า เรามีความสุขจะทำให้เรารู้สึกขอบคุณ แต่จริง ๆ แล้ว การขอบคุณต่างหากที่ทำให้เรามีความสุข
ขอบคุณเป็นคำที่เบสิคมากในทุก ๆ ภาษา เวลาที่เราไปต่างประเทศ คำที่เราต้องเรียนรู้มีไม่กี่คำ เช่น สวัสดี สวย อร่อย และแน่นอนว่าคำว่า ขอบคุณคือหนึ่งในนั้น หลายครั้งคำนี้ก็เชื่อมต่อเรากับผู้คน
ในอีกแง่นึงคำนี้ก็ทำให้เกิดความรู้สึกดี ๆ ต่อกันได้เหมือนกัน การที่คนนึงหยิบยื่นอะไรมาให้เรา เราตอบกลับเขาด้วยคำว่า ขอบคุณ จนมันกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า มารยาททางสังคม
ขอบคุณโดยทั่วไปกับขอบคุณจากใจแตกต่างกัน ขอบคุณโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นเวลาใครสักคนทำบางอย่างให้ แต่ขอบคุณจากใจ มักจะมาพร้อมความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้นในใจ
และสังเกตไหม? ว่า ‘ตัวเอง’ คืออีกอย่างหนึ่งที่หลายคนลืมขอบคุณมากที่สุด หลายคนมองเห็นแต่ความผิดพลาด โดยลืมขอบคุณ ‘ความพยายาม’ ของตัวเองที่ใส่ลงไป
ขอบคุณ จากใจคืออะไร?
เป็นความรู้สึกที่ยินดี ซาบซึ้ง เป็นความรู้สึกที่งดงามที่เรามีต่อผู้อื่น หรือแม้แต่ต่อสิ่งที่ไม่ใช่บุคคล นักจิตวิทยาชาวอเมริกันชื่อ Robert Emmons ได้กล่าวว่า Gratitude มีสองสิ่งร่วมอยู่ คือ
1. acknowledgement
ความรู้สึกว่าความดีงามในโลกนี้มีอยู่จริงและเรามั่นใจได้จากสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้รับ
2. recognizing
การที่เราเห็นได้ว่าความดีงามที่เกิดขึ้นมาจากภายนอกตัวเรา เรามองเห็นการมีส่วนของผู้อื่นที่เข้ามามีต่อเรา เพราะบางครั้งเราก็มองเเต่ตัวเองจนลืมมองสิ่งรอบข้างไป
ขอบคุณ ตัวเองก็สำคัญนะ
ในหัวข้อที่แล้ว พวกเราคุยกันถึง Gratitude ที่เกิดขึ้นกับความรู้สึกที่มีต่อสิ่งภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งแวดล้อม ขอพาไปรู้จัก Self Gratitude ด้วย ว่าจะเน้นไปที่ตัวเองเป็นหลัก
เป็นความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อตัวเอง ว่าเราชอบ ชื่นชม ปลื้มปิติ กับลักษณะนิสัย ความสามารถ ความรู้ สไตล์ การตัดสินใจ รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอก ที่เรามี
โดยรวม Gratitude การขอบคุณในรูปแบบนี้มักจะเกิดขึ้นต่อสิ่งที่มีคุณค่าต่อจิตใจเราในทางใดทางหนึ่งเสมอ แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ต้องรอให้ใครทำอะไรดี ๆ ให้
หรือ รอให้เรื่องดี ๆ เกิดขึ้น ถึงจะนำพาให้เกิดความรู้สึกนั้นเท่านั้น เราสามารถสร้างความรู้สึกนั้นได้ด้วยตัวเอง
ขอบคุณ ให้มากขึ้น เริ่มยังไงดี?
ปุ่ม 3 ปุ่ม จาก Discover the Three Keys of Gratitude to Unlock Your Happiest Life! โดย Jane Ransom
1. Emote
มันไม่ใช่แค่นึกถึงเรื่องที่น่า Gratitude เท่านั้น แต่เราต้องรู้สึกกับเรื่องนั้นจริงๆ
2. Extend
ขยายความขอบคุณออกไปให้ไกลกว่าตัวเรา เป็นการรู้สึกขอบคุณคนอื่นหรือสิ่งอื่น
3. Excersise
ทำแบบฝึกหัดแสดงความขอบคุณทุกวัน อาจจะเป็นการนึกถึงสิ่งที่อยากขอบคุณ 3 สิ่งต่อวัน แล้วเขียนลงบันทึก หรือ เปล่งเสียงออกมา
ประโยชน์จากการ ขอบคุณ
1. เก็บสะสมความสุข
ในช่วงเวลาที่หาเรื่องราวดี ๆ ให้ขอบคุณไม่ได้เลย Gratitiude เป็นเหมือนการเขียนบันทึก เพื่อสะสมเรื่องราวดี ๆ การย้อนกลับไปอ่านบันทึกที่เราเขียน อาจทำให้เราได้มองสิ่งที่เผชิญอยู่ในมุมกว้างมากขึ้น
2. Gratitiude
ทำให้เราเป็นอิสระกับความเจ็บปวดทางอารมณ์ บางประสบการณ์ บางความสัมพันธ์ทำให้เราเจ็บปวดกับมัน การฝึกขอบคุณสิ่งต่างๆในชีวิต ช่วยให้เราโฟกัสกับความสุขในปัจจุบันได้มากขึ้น
3. ทำให้เรามองอย่างอื่นนอกจากตัวเองบ้าง
เขียนถึงคนที่อยู่ใกล้หรือคนที่อยู่ไกลกับเราแต่น่ารักกับคุณเสมอ การนึกถึงคนรอบข้างมากขึ้น สุดท้ายเเล้วความรู้สึกหนักอึ้งในใจอาจจะหายไปเลยก็ได้
รีเช็คตัวเอง เรา ขอบคุณ จากใจแล้วหรือยัง?
เราจะรู้ได้ยังไงว่าที่ทำอยู่เรียกว่า Gratitude? รีเช็คได้ง่าย ๆ โดยการสังเกตว่า เรากำลังขอบคุณเพราะรู้สึกขอบคุณ หรือ เรากำลังพยายามพลิกแพลง บิดเบือน สิ่งที่เฉย ๆ หรือสิ่งที่แย่ ๆ ให้กลายเป็นดี
ยกตัวอย่าง ‘ขอบคุณมากเลยที่แฟนทิ้งไป เราจะได้เริ่มต้นใหม่’ ข้อนี้มองได้สองแง่ สำหรับคนที่อยู่ในความสัมพันธ์นี้ มัน toxic มันทำร้ายกันไม่จบไม่สิ้น วันที่เลิกกันพูดประโยคนี้
‘ขอบคุณมากเลยที่แฟนทิ้งไป เราจะได้เริ่มต้นใหม่’ อันนี้คงเรียกได้ว่าเป็น Gratitude อย่างหนึ่ง คือ เรารู้สึกจากใจ ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว แต่ในอีกแง่หนึ่ง
สำหรับคนที่ความสัมพันธ์ไม่มีปัญหาอะไร เรารักเขา แต่เขาหมดรัก เพราะเขาไปเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่า การพยายามบอกตัวเองว่า ขอบคุณมากเลยที่แฟนทิ้งไป ทั้งที่ยังเสียใจ
นี่ไม่ใช่ Gratitude แล้ว แต่เป็นการปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง หลอกตัวเองเพื่อไม่ให้เจ็บปวด เพราะ Gratitude ไม่ใช่การสร้างคำพูดหรือประโยคอะไรขึ้นมาขอบคุณเพื่อปลอบใจตัวเอง
แชร์ทริค ขอบคุณยังไงให้ทำได้ในระยะยาว
1. สังเกตสิ่งใหม่ที่น่าขอบคุณในทุกวัน
2. เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง
3. อย่าจำกัดตัวเอง
4. เเบ่งปันช่วงเวลาแห่งการขอบคุณ
ถ้าทำได้ในระยะยาวจะส่งผลดีแน่นอน มีการวิจัยเรื่องนี้จากมหาวิทยาลัย Harvard เกี่ยวกับเทศกาล Thanks giving ที่ให้ความสำคัญในเรื่อง การขอบคุณ ความรู้สึกขอบคุณ ความรู้สึกปลื้มปิติ
ซึ่งพบว่า Gratitude เกี่ยวข้องกับ Happiness จริง แล้วยังส่งผลดีอื่น ๆ เช่น สุขภาพกายดี เผชิญกับปัญหาได้ดี รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคนรอบข้างอีกด้วย
Gratitude และ Toxic Positivity ต่างกันยังไง?
1. ความตั้งใจต่าง
ดูผิวเผินแล้วคล้ายกัน แต่ความตั้งใจแตกต่างกัน Gratitude จะทำให้เราซาบซึ้งในสิ่งที่มี ในขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าชีวิตไม่ได้สมบูรณ์แบบ Toxic Positivity จะปฏิเสธการมีอยู่ของความรู้สึกเชิงลบ
โดยยกความคิดแง่บวกขึ้นมา เพราะจงใจจะเพิกเฉยความรู้สึกที่แท้จริงและแน่นอนว่าจะไม่สามารถจัดการกับอารมณ์เชิงลบได้ เมื่อเราเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต
2. ความรู้สึกต่าง
Gratitude ช่วยให้รู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลาย ยอมรับไม่สมบูรณ์และไม่ปิดกั้นทุกความรู้สึก ทำให้เรารับรู้ถึงสิ่งที่ผิดและจากนั้นขยายการรับรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง Toxic Positivity ทำให้ตกอยู่ในกรอบความคิดที่ผิด
ว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบ จน “รู้สึกติดขัด” สุดท้ายแล้ว เราต่างก็ต้องเผชิญกับผลของความเป็นจริง ด้วยมุมมองที่สมดุลและเรียล Gratitude จะช่วยให้หลุดพ้นจากความรู้สึกติดขัดนั้น
ข้อควรระวัง
Gratitude เป็นพาร์ทหนึ่งของการมองโลกในแง่ดี ถ้ามองโลกในแง่ดีไม่ถูกวิธี จะเกิดเป็น Toxic Positivity การขอบคุณไว้ก่อน ไม่ยึดกับความเป็นจริง ทำให้เกิดเป็น Toxic Gratitude ได้เหมือนกัน
อ้างอิงจากพี่อีฟ นักจิตวิทยา จุดตัดของทั้งสองอย่างนี้ คือ ‘โลกแห่งความเป็นจริง’ ไม่ว่าจะเป็นการมองโลกในแง่ดี การรักตัวเอง การให้กำลังใจตัวเอง ทุกอย่างจะไม่เกิดเป็น toxic positivity หรือ การหลอกตัวเอง
ถ้ายึดกับ ‘โลกแห่งความเป็นจริง’ เพราะ Gratitude ที่พวกเราพูดคุยกันในวันนี้ คือ การที่มองหาจุดดีแล้วขอบคุณในสิ่งที่เกิดขึ้นหรือมีอยู่จริง ไม่ใช่ สร้างคำพูดปลอบใจหรือสิ่งดี ๆ ขึ้นมาไว้ปลอบใจตัวเอง
ลองเริ่มจากขอบคุณเรื่องดี ๆ เล็กน้อยในชีวิต 🙂 อาจทำให้มีความสุขขึ้นได้มากกว่าที่คิด
ที่มา :
“คำขอบคุณ” ให้คุณกว่าที่คิด
The Science Behind Gratitude (and How It Can Change Your Life)
What Is the Difference Between Toxic Positivity and Gratitude?
Giving thanks can make you happier
What Is Self-Gratitude and How Can You Practice It?
Post Views: 2,687