ความสัมพันธ์ ความรักฉบับจิตแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความเบื่อ ความขัดแย้ง ความ Toxic ไปจนถึงการเลิกรา จะรับมือกับปัญหาหัวใจและดูแลตัวเองอย่างไร
มาหาคำตอบกับรายการพูดคุย Alljit X คุณ ณัฏฐชัย รำเพย จิตแพทย์ 🙂
สามเหลี่ยมแห่งความรัก
Passion: ความรักที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์
Passion หรือความรักที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความเร้าใจ เป็นองค์ประกอบแรกในความรักที่สเตบอาร์พูดถึง มันคือความรักที่ขับเคลื่อนด้วยโดปามีน
ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกดี ๆ เช่น ความอยากพบกัน ความคิดถึง ความตื่นเต้นเมื่อได้พบเจอ อีกทั้งการสัมผัสและความปรารถนาใกล้ชิด
ในช่วงเริ่มต้นของความสัมพันธ์ Passion มักจะสูงมาก เช่น ความตื่นเต้นในการเจอหน้ากัน ความอยากสัมผัส และความคิดถึงที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ไม่ได้เจอกัน
แต่หลังจากคบกันไปสักระยะ Passion อาจลดลงได้ เนื่องจากความเคยชินและการเปลี่ยนแปลงของรสนิยมส่วนตัว
Commitment : ความรักที่เกิดจากการตัดสินใจ
การมี Commitment คือการตัดสินใจที่จะรักกันและเลือกที่จะอยู่เคียงข้างกันในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเป็นแฟน หรือการตัดสินใจแต่งงานและสร้างครอบครัว
ความรักในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดจากอารมณ์ชั่วขณะ แต่เกิดจากการสัญญาที่เรามีต่อกัน อย่างไรก็ตาม หากมีเพียงแค่ Commitment โดยที่ขาด Passion และ Intimacy
ความรักนี้อาจจะดูเหมือนว่างเปล่า เป็นแค่ความสัมพันธ์ที่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกอะไรใหม่ ๆ ราวกับรักที่ถูกบังคับหรือมีความผูกพันจากภาระที่ต้องรับผิดชอบ
Intimacy: ความผูกพันที่ลึกซึ้ง
Intimacy เป็นความรักที่มีความใกล้ชิดและการผูกพันในระดับลึก มันคือการที่คู่รักอยู่เคียงข้างกันในทุกช่วงชีวิต มีความเข้าใจกันและพร้อมที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน
เมื่อความสัมพันธ์ยาวนานขึ้น Intimacy อาจจะกลายเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะมันคือการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกัน
ความรักในรูปแบบนี้ไม่ได้แสดงออกผ่านความตื่นเต้นหรือการสัมผัสเสมอไป แต่คือการมีอยู่เคียงข้างในยามทุกข์สุข
ความรัก ที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา
เมื่อคบกันไปนาน ๆ ความรักอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ เช่น Passion ที่เคยมีมากในช่วงเริ่มต้นอาจจะลดลง แต่ Intimacy และ Commitment กลับเพิ่มขึ้น
ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่มั่นคงในระยะยาว ความรักไม่จำเป็นต้องคงที่ในรูปแบบเดียวตลอดเวลา การมีความเข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้ความรักมีความหมายมากยิ่งขึ้น
ปัญหา “ความเบื่อ” ในความสัมพันธ์
บางครั้งคู่รักอาจรู้สึกเบื่อหน่าย หรือความรักอาจดูเหมือนหายไป ซึ่งบ่อยครั้งเกิดจากการที่ Passion ลดลง การคบกันไปนาน ๆ อาจทำให้การพบเจอกันไม่ได้มีความตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อน
นอกจากนี้ความเคยชินและการไม่สนใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจทำให้ความรักดูจืดจาง การรับมือกับสิ่งเหล่านี้ต้องเริ่มจากการสื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมา
พูดถึงความรู้สึกที่แท้จริงและสิ่งที่ต้องการจากกันและกัน การฟื้นฟู Passion ในความสัมพันธ์อาจมาจากการทำสิ่งใหม่ ๆ หรือการย้อนกลับไปสู่สิ่งที่เคยทำให้เราตื่นเต้นในช่วงแรก ๆ ของความสัมพันธ์
วิธีรับมือกับ “ปัญหาซ้ำซาก” ในความสัมพันธ์
การสื่อสารที่ดีในความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญมาก การที่เราจะเข้าใจกันและกันและสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มจากการพูดคุยอย่างเปิดใจ โดยไม่ทำให้ฝ่ายอื่นรู้สึกถูกโจมตี ต่อว่า
ในกรณีที่เราไม่พอใจหรือ รู้สึก โกรธ เหงา เราควรเริ่มจากการพูดถึงความรู้สึกของตัวเองก่อน ไม่ใช่การกล่าวโทษหรือการมองในแง่ลบกับอีกฝ่าย
เราควรบอกเขาอย่างตรงไปตรงมาว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกแบบนี้” และอย่าลืมว่ามันเป็นความรู้สึกของเราเอง ไม่ได้เป็นการโทษเขาเลย
การเข้าใจความคิดเห็นที่แตกต่างของกันและกันก็เป็นเรื่องสำคัญ บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจเรา แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มีมุมมองของตัวเอง
การยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างจะช่วยให้เราไม่เกิดความขัดแย้งมากมาย และถ้ามันเริ่มเป็นปัญหา ก็สามารถพูดคุยกันตรงๆ ได้ว่า “ในบางครั้งฉันไม่สามารถดูแลตัวเองได้ทั้งหมด ฉันต้องการการสนับสนุนจากเธอ”
การคุยกันเพื่อหาทางออกและแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้ความสัมพันธ์แข็งแรงและเข้าใจกันมากขึ้นครับ!
Move on เป็นวงกลมกับ “ความสัมพันธ์ Toxic”
ความสัมพันธ์ที่เราเห็นว่าเป็น “ท็อกซิก” หรือไม่ดี แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในนั้น จริง ๆ แล้วมันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ นไม่ได้เป็นเพียงแค่การรักคนผิดหรือ แค่ไม่รู้ว่าเราควรออกจากความสัมพันธ์นั้น
แต่บางทีเราก็มีความยึดติดหรือเคยได้รับอะไรดี ๆ บางอย่างจากความสัมพันธ์นั้นมาก่อน ทำให้เรามองข้ามสิ่งที่ไม่ดีในปัจจุบัน
การที่เรารู้สึกว่า “เราเป็นคนผิดตลอด” หรือ “คุณค่าของเราเริ่มลดลง” ก็เพราะเราคาดหวังให้ความสัมพันธ์เติมเต็มบางอย่างในชีวิตเรา แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกแย่ สิ่งที่เราต้องถามตัวเองคือ
“เราควรจะยังยอมรับการเสียสละนี้หรือไม่” การอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำให้เรารู้สึกแย่ในบางครั้ง มันอาจจะทำให้เราเสพติดความรู้สึกบางอย่างที่เคยมีในช่วงเวลาที่ดี ๆ
แต่ก็ต้องถามตัวเองว่า “มันคุ้มค่ากับสิ่งที่เราต้องสูญเสียหรือไม่
“แฟนเก่า”
สำหรับการกลับไปหาแฟนเก่า แม้จะมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้เรามีความคิดแบบนั้น เช่น ความผูกพันที่ยังคงมีอยู่หรือความรู้สึกที่เคยดีมาก ๆ แต่บางทีการกลับไปอาจไม่ได้หมายความว่า
เราจะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดได้เสมอไป บางครั้งแค่คิดถึงบางสิ่งที่เคยดีในช่วงเวลานั้นก็ทำให้เราคิดถึงคนเก่า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำถ้าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่จากการแยกทางไปแล้ว
ความรู้สึกที่กลับไปหาคนเก่าไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ต้องมองให้ชัดเจนว่าเรามีความตั้งใจจริงหรือไม่ หรือแค่เป็นเพราะ “คิดถึง” บางสิ่งที่เคยมีที่อยู่กับคนเก่า การเข้าใจเหตุผลของตัวเองว่าเราอยากกลับไปจริง ๆ
หรือแค่ความรู้สึกชั่วคราวจะช่วยให้เราเลือกได้ว่า “ควรไปต่อ” หรือ “ควรปล่อยให้มันเป็นอดีต”
ถ้ามีแฟนใหม่แล้วไปคิดถึงแฟนเก่า มันอาจเป็นสัญญาณว่าเราไม่ได้ลืมอดีตจริง ๆ หรือเรายังมีแผลบางอย่างที่ยังไม่ได้เยียวยา มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร
ถ้าเราต้องการทำความเข้าใจให้ดีขึ้น การพูดคุยกับแฟนใหม่หรือคนที่เราไว้ใจจะช่วยให้เรามองเห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ
“มือที่สาม”
การนอกใจมักจะไม่ได้เกิดขึ้นจากแค่เหตุผลเดียว แต่มักมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ซ้อนทับกัน ทั้งทางชีวภาพ จิตใจ สังคม หรือแม้แต่ปัญหาความสัมพันธ์เอง ซึ่งสามารถทำให้เกิดการตัดสินใจผิด ๆ ได้
1. ปัจจัยทางชีวภาพ : บางคนอาจมีระดับฮอร์โมนสูงหรือความต้องการทางเพศที่สูง ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ จึงอาจไปหาความพึงพอใจจากภายนอก
2. ปัจจัยทางจิตใจ : บางครั้งคนอาจมีบาดแผลจากอดีต เช่น รู้สึกไม่เป็นที่รักหรือมีปัญหาทางอารมณ์ ซึ่งทำให้พวกเขามองหาความรักหรือความสนใจจากคนอื่น แม้ว่าในปัจจุบันพวกเขาจะมีแฟนแล้วก็ตาม
3. ปัจจัยทางสังคม : การมีสถานะทางสังคมที่ดี เช่น การมีชื่อเสียงหรือเงินทอง อาจดึงดูดความสนใจจากผู้อื่น ทำให้บางคนเกิดการหลงลืมหรือหลุดจากความสัมพันธ์ที่มีอยู่
4. ปัญหาความสัมพันธ์ : เมื่อความสัมพันธ์มีปัญหา เช่น การขาดการสื่อสารหรือความเข้าใจที่ดีระหว่างคู่รัก บางคนอาจหันไปหาคนอื่นเพื่อเติมเต็มความขาดแคลนทางอารมณ์ เช่น การให้ความเอาใจใส่จากคนอื่น
5. สถานการณ์และโอกาส : บางครั้งสถานการณ์ก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการนอกใจ เช่น ความสัมพันธ์ที่อยู่ไกลกันหรือมีโอกาสอยู่ใกล้คนอื่นที่สามารถให้ความรู้สึกที่ดีได้
เราได้ตกลงกันกับคู่รักไว้แล้วว่าไม่ควรทำอะไรที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียใจหรือผิดหวัง มักเป็นสิ่งที่เราคาดหวังว่าคนในความสัมพันธ์จะทำตาม อย่างไรก็ตาม
ในที่สุด ความรักไม่ได้แค่ขึ้นอยู่กับ “คำสัญญา” หรือ “การตกลง” แต่ต้องมีการดูแลและพัฒนาความสัมพันธ์ให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยคำนึงถึงปัจจัยที่มีผลต่อคู่รักทั้งในด้านความรู้สึกและสถานการณ์ต่าง ๆ
“การสิ้นสุด ความสัมพันธ์”
การตัดสินใจออกจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีและทำให้รู้สึกไม่คุ้มค่านั้นมันยากจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะเมื่อเรารู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ยังคงได้จากการอยู่ในความสัมพันธ์นั้นอยู่
ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางด้านการเงิน ความรู้สึกได้รับการดูแล หรือแม้กระทั่งแค่ความรักที่เคยมีจากคนนี้
อย่างแรกที่ควรทำคือต้องมานั่งถามตัวเองว่าความสัมพันธ์นี้มัน “ไม่คุ้มค่า” อย่างไร ? สิ่งที่ได้มาและสิ่งที่เสียไปมีอะไรบ้าง? หากสิ่งที่เราได้มามีค่าสำหรับเราในบางแง่มุม
เช่น ความรักหรือการดูแลทางอารมณ์ บางครั้งการตัดสินใจออกจากความสัมพันธ์ก็ หมายถึงการสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
จากนั้น เราควรเริ่มมองหาวิธีที่จะแก้ไขหรือหาทางออกจากสถานการณ์นี้ โดยเริ่มจากการวางแผนล่วงหน้า เช่น ถ้าความสัมพันธ์นี้ทำให้เราได้รับการซัพพอร์ตทางการเงิน เราก็ต้องเตรียมตัวหางานหรือเพิ่มรายได้
เพื่อที่จะสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง หรือถ้าเราได้รับการดูแลทางอารมณ์จากคู่รัก ให้ลองหาวิธีเสริมสร้างการดูแลตัวเอง เช่น หาเพื่อนที่สามารถให้การสนับสนุนเรา หรือฝึกการดูแลจิตใจตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น
ถ้ามันเป็นเรื่องของ “ความรัก” ที่เราไม่อยากเสียไป การกลับมาถามตัวเองว่ารักตัวเองมากพอหรือยัง ? หรือรักใครมากกว่ากัน ? การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าเราควรอยู่ในความสัมพันธ์นั้นต่อไปหรือไม่
การออกจากความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะเมื่อความรู้สึกในตอนนี้ยังมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ไม่อยากทิ้งไป แต่การรู้ตัวว่า “สิ่งที่เราแลกไปมันไม่คุ้ม”
และการวางแผนเพื่อความสุขและความมั่นคงในชีวิตในระยะยาว จะทำให้การตัดสินใจออกจากความสัมพันธ์นั้นเป็นทางเลือกที่ดีขึ้นสำหรับตัวเอง
อย่างไรก็ตามคำแนะนำนี้ก็เป็นเพียงแนวทางหนึ่งที่อาจช่วยให้คุณมองเห็นมุมมองที่ต่างออกไป และอย่าลืมว่าในการทำการตัดสินใจที่สำคัญเช่นนี้ เราต้องให้เวลาและพื้นที่กับตัวเองเพื่อคิดทบทวนอย่างรอบคอบ
วิธีรับมือกับความรู้สึกหลัง “การเลิกรา”
การยอมรับและอนุญาตให้ตัวเองเศร้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะมันช่วยให้เรารับรู้ความรู้สึกของตัวเอง และไม่ต้องกดดันตัวเองไปในทางที่อาจจะยิ่งทำให้รู้สึกแย่ไปกว่าเดิม
การปล่อยให้ตัวเองเศร้า แต่ต้องอยู่กับความเศร้าในทางที่สามารถดูแลตัวเองได้ ค่อย ๆ เริ่มทำสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เป็นการดูแลตัวเองที่สำคัญมาก
บางคนอาจจะรู้สึกดีขึ้นจากการทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ เช่น การพักผ่อน การเที่ยว หรือการอยู่กับคนที่รักและห่วงใย เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือคนที่เป็นกำลังใจให้เรา
สิ่งที่สำคัญมากก็คือหากความเศร้ามันเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เช่น กระทบกับการทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ หรือหากความเศร้าทำให้เราอยากทำร้ายตัวเองหรือรู้สึกไม่มีทางออก
ควรหาความช่วยเหลือจากคนรอบข้างหรือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสมค่ะ การขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้
บทความอื่น ๆ ที่ Alljit Blog
Post Views: 35