ความเจ็บปวดจากการคุยกับนักจิตวิทยา

ความเจ็บปวดจากการคุยกับนักจิตวิทยา

เรื่องAdminAlljitblog

ความเจ็บปวดจากการคุยกับนักจิตวิทยา ไม่ว่าจะเป็น การวินิจฉัยผิด ความไม่เข้าใจ การเมินเฉย และการตัดสิน เกิดขึ้นในชั่วโมงการปรึกษาได้หรือไม่ ?

 

จะรับมืออย่างไร ? มาหาคำตอบในรายการพูดคุย  Alljit x คุณวันเฉลิม คงคาหลวง นักจิตวิทยาการปรึกษา

สาเหตุของ ความเจ็บปวดจากการคุยกับนักจิตวิทยา

1. การวินิจฉัยที่ผิดพลาด  

 

การได้รับการวินิจฉัยที่ผิดพลาด เช่น การระบุอาการไม่ตรงกับปัญหาจริง หรือการจ่ายยาที่ไม่เหมาะสม อาจสร้างความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจเกิดจากการสื่อสาร

 

ที่ไม่ชัดเจนระหว่างผู้รับคำปรึกษาและ ผู้ให้คำปรึกษา หรือข้อจำกัดของผู้ให้บริการเอง ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญคนอื่น หรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการที่มีความชำนาญเฉพาะทาง

2. ไม่ได้รับความเข้าใจที่เพียงพอ

 

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับคำปรึกษาและ นักจิตวิทยาเป็นสิ่งสำคัญมาก หากนักจิตวิทยาไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์หรือความรู้สึกของได้ ผู้รับคำปรึกษาอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่ได้รับการช่วยเหลือที่คาดหวัง

 

สิ่งนี้อาจเกิดจากการที่นักจิตวิทยาขาดทักษะ หรือความสัมพันธ์ระหว่างที่ไม่สอดคล้องกัน การพูดคุยกับผู้ให้คำปรึกษาคนใหม่อาจช่วยเปิดโอกาสให้ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมกว่า

 

3. การถูกตัดสินหรือเมินเฉย

 

บางคนอาจรู้สึกว่าได้รับการตัดสินหรือเมินเฉยจากนักจิตวิทยา เช่น การที่นักจิตวิทยาแสดงความไม่ใส่ใจ หรือใช้คำพูดที่ทำให้รู้สึกด้อยค่า สิ่งนี้อาจสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก

 

โดยเฉพาะเมื่อเราคาดหวังว่าจะได้รับความเข้าใจและ การสนับสนุนจากพวกเขา แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ 

 

ทั้งนี้ ” อย่าปล่อยให้ความกลัว มาขัดขวางตัวเองจากการตัดสินใจไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับความช่วยเหลือ”

 

 

ความเจ็บปวดจากการคุยกับนักจิตวิทยา แก้ไขอย่างไร

 

1. ตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเอง

สิ่งแรกที่ควรทำคือการรับรู้และยอมรับความรู้สึกของตัวเอง หากคุณรู้สึกเจ็บปวดหรือผิดหวัง ให้เข้าใจว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้

 

และไม่ใช่ความผิดของเรา การยอมรับความรู้สึกจะช่วยให้ผู้รับคำปรึกษา ก้าวข้ามไปสู่การแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น

2. อย่าโทษตัวเอง

การพบเจอกับประสบการณ์ที่ไม่ดีไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนผิด หรือทำอะไรผิดพลาด อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดนี้กลายเป็นภาระทางใจเพิ่มเติม

 

จงมองว่านี่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ของชีวิตที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะหลาย ๆ ครั้งในชีวิตเราก็มักเลือกบางอย่างผิดไปบ้าง

3. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญคนอื่น

หากรู้สึกว่านักจิตวิทยาที่เข้าพบไม่สามารถช่วยเหลือเราได้อย่างแท้จริง ให้ลองหาผู้เชี่ยวชาญคนอื่น และสามารถสอบถามข้อมูลจากผู้ที่มีประสบการณ์หรือ รีวิวจากผู้ใช้บริการคนอื่นเพื่อช่วยในการตัดสินใจเพิ่มเติมได้ 

4. พูดคุยกับผู้ให้คำปรึกษา

ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนผู้ให้คำปรึกษา อยากให้ทดลองพูดคุยเปิดใจกับนักจิตวิทยาท่านเดิมเกี่ยวกับความรู้สึกของเรา  ว่าเรามีความคิด ความรู้สึกอย่างไรต่อการรับคำปรึกษา 

 

การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาอาจช่วยให้นักจิตวิทยาเข้าใจมากขึ้นและ ปรับเปลี่ยนวิธีการให้คำปรึกษาให้เหมาะสมกับเรามากขึ้น

 

5. ดูแลจิตใจของตัวเอง

หากคุณรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกเจ็บปวดได้ด้วยตัวเอง ลองพูดคุยกับคนที่คุณไว้ใจ เช่น เพื่อนสนิทหรือ ครอบครัว  

 

การได้รับการสนับสนุนทางอารมณ์จากคนใกล้ชิดสามารถช่วยให้คุณเรารู็สึกดีขึ้นได้ และผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

 

6. ให้โอกาสตัวเอง

อย่าปล่อยให้ประสบการณ์ครั้งหนึ่ง มาขวางกั้นโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาของตัวเอง แม้ว่าจะเคยเจอเหตุการณ์ที่แย่กับผู้เชียวชาญคนหนึ่ง แต่ยังมีนักจิตวิทยาท่านอื่นที่พร้อมจะช่วยเหลือเรา 

 

 

ป้องกันความเจ็บปวดจากการคุยกับนักจิตวิทยา

1. หาข้อมูลล่วงหน้า

ก่อนเลือกนักจิตวิทยา ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยา หรือจิตเเพทย์ก่อน เช่น การอ่านรีวิวจากผู้รับบริการคนอื่น หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานพยาบาล

 

2. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

ก่อนเข้ารับคำปรึกษา ลองตั้งเป้าหมายว่าเราต้องการอะไรจากการพูดคุย การปรึกษาครั้งนี้ เช่น การเข้าใจตัวเองมากขึ้น หรือการหาทางออกจากปัญหาที่เผชิญอยู่ หรือ แค่ต้องการระบาย

 

เพราะการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยให้นักจิตวิทยาเข้าใจความต้องการของเราได้ง่ายขึ้น และไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

 

3. ประเมินความสัมพันธ์หลังการพูดคุย

หลังจากการพูดคุย ให้ลองประเมินว่าเรารู้สึกอย่างไร หากรู้สึกว่านักจิตวิทยาคนนี้ไม่เหมาะ หรือได้รับคำปรึกษาที่ไม่ตรงใจ  อย่าลังเลที่จะหาผู้เชี่ยวชาญคนใหม่

 

 

ALLJIT BLOCK 

Related Posts