NTM3

ตามหาสิ่งที่สำคัญในชีวิต l The Rode Not Taken

เรื่องAdminAlljitblog

 The Road Not Taken บนถนนที่เราไม่ได้เลือกเดิน

 

The Road Not Taken มาจากกวีในชื่อเดียวกันของ Robert Frost

 

ที่เขียนเพื่อล้อเลียนเพื่อนตัวเองที่เวลาเดินป่าจะชอบตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเส้นทางไหน แล้วพอเลือกไปแล้วก็จะชอบบนว่าตัวเองน่าจะเลือกอีกเส้นทางดีกว่า 

 

หลังจากนั้น Edward Thomas คนที่ Robert เขียนล้อเลียน ก็เอากวีที่เพื่อนแต่งเพื่อแซวตัวเขาเองไปอ่านให้นักศึกษาฟัง

 

กลายเป็นว่านักศึกษาที่ฟังกวีบทนี้ไม่ได้มองว่ามันเป็นกวีล้อเลียน แต่เป็นกวีที่ลึกซึ่งและชวนให้คิดไม่ตก

 

และแม้ว่ากวีบทนี้จะถูกเขียนตั้งแต่ปี 1915 แต่ก็เป็นกวีที่ถูกจัดว่าคลาสสิคและถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง สาเหตุเพราะมันสามารถตีความได้หลากหลายแบบ หลากหลายประเด็น

เมื่อป่าใหญ่ให้ทางไปต่างแห่ง

ทางสองแพร่งแบ่งสายเป็นซ้ายขวา

ฉันยืนหยุดดูจุดหมายสุดสายตา

เสียดายว่าฝ่าได้…แค่สายเดียว

  

มีทางหนึ่งซึ่งเยี่ยมทัดเทียมเท่า

พงหญ้าเล่าเข้าประดูรกเขียว

รอผู้คนพ้นผ่านมานานเชียว

เส้นทางเปลี่ยวเลี้ยวลดจรดใด

 

ใบไม้คลุมสุมเท่ายามเช้าตรู่

ไม่มีผู้รู้ย่างย่ำทางไหน

ทางโล่งนั้นครั้นเล่ามิเข้าไป

ขอเก็บไว้ในตอน…เผื่อย้อนมา

 

ถอนหายใจไม่หยุดถึงจุดแบ่ง

ทางสองแพร่งแหล่งใดเดินไปหา

ขอเลือกทางต่างกันในมรรคา

ทางที่ว่าหาใช่…คนใฝ่เดิน…

ความหมายของกวีก็ตีความได้หลากหลายแบบมากๆ สามารถตีความถึงมนุษย์เราเองที่มักจะเสียดายกับอะไรที่เราไม่ได้เลือก

 

และมักจะละเลยคุณค่าของสิ่งที่เรามีหรือได้มา ในที่นี้ก็คือถนนที่เราไม่ได้เลือกเดิน

 

ขณะเดียวกันมันก็สะท้อนอีกว่ามนุษย์เรามักยืนอยู่บนทางแยก เราต้องเลือกและตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา

 

ในทางที่หลายๆ ครั้งเราก็ไม่รู้ว่าจะไปจบที่ตรงไหน หรือปลายทางมีอะไรรออยู่ เราเลยจำเป็นต้องเลือกและยอมรับในผลของการตัดสินใจนั้นๆ ของเรา

เส้นทางที่แตกต่างจะนำเราไปสู่การเติบโต

อีกการตีความนึงจากคุณ วลัยลักษณ์ ผดุงเจริญ บนเว็บ GotoKnow 

 

กวีนี้อาจชี้แนะว่าการเลือกเดินบนเส้นทางที่คนสวนใหญ่ไม่เดินกันย่อมนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากคนอื่น

 

ไม่แน่ว่าการเลือกเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ไม่เดินนั้น อาจสะท้อนถึงการเลือกในสิ่งที่เราให้คุณค่า

 

หรืออะไรที่ท้าทายไปจากเดิม และแน่นอนว่าเมื่อเราเลือกอะไรที่แปลกใหม่และท้าทาย เราจะเติบโตและเรียนรู้อะไรต่างๆ มากมาย

ความสุขกับ Hedonic Adaptation

คุณ Ryder พูดถึงว่าทำไมบ่อยครั้งคนเราประสบความสำเร็จ ถึงเป้าหมายที่อยากจะไป แต่กลับไม่มีความสุข 

 

มันก็มีหลักการทางจิตวิทยามาอธิบายว่ามันเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า Hedonic adaptation 

 

หมายถึงแนวโน้มที่คนเราจะกลับสู่ระดับความสุขหรือความทุกข์ที่คงที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตก็ตาม

 

 

คงที่คือตรงไหน

และถ้าถามว่าระดับคงที่ของความสุขอยู่ตรงไหน คำตอบก็คือแล้วแต่คน

 

ประเด็นเรื่องความสุขยังเป็นอะไรที่กำลังถูกศึกษาอย่างต่อเนื้องและยังไม่มีคำตอบใดๆ ที่ชัดเจน

 

แต่นักจิตวิทยาบางส่วนเชื่อว่า ความสุขพื้นฐาน หรือ Set Point ของแต่ละคนไม่เท่ากันโดยมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมและพื้นบุคลิกภาพของเราเอง

 

Some psychologists believe that as much as half of our happiness comes from an inherited genetic “set point”. Happy events, or negative experiences, affect us only for a short while. Then we return to a level of contentment mostly dependent on our personality.

 

Hedonic adaptation จึงอาจเป็นสาเหตุที่ว่าทำไม เราจึงโหยหาความ สุขซ้ำๆ และไม่เคยมีความสุขที่มากพอในระยะยาว 

 

จบที่ข้อสรุปว่า บางทีความสุขอาจมาจากการกระทำมากกว่าเป้าหมาย เพราะฉะนั้นแล้ว การตามหาสิ่งที่มีคุณค่า

 

มีความหมายและสำคัญกับเราต่างหากที่จะนำไปไปสู่ความสุขในระยะยาวได้ ซึ่งก็เป็นแนวคิดอิงมาจากปรัชญาแนว Eudaimonism 

 

 

หลักจิตวิทยาเบื่องหลัง 

The Road Not Taken หลักการคล้ายกับกระบวนการทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Visualization ครับ

 

Visualization คือกระบวนการของการสร้างภาพจิตใจ ความรู้สึก หรือกระบวนการทำงานต่างๆ ของใจเราผ่านการใช้จินตนาการ

 

ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในเชิงจิตวิทยาเพื่อให้เราทำความเข้าใจและทำงานกับจิตใจของเราเอง

 

The Road Not Taken ซึ่งก็จะเป็นกิจกรรมที่จะชวนเพื่อนๆ ลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นนักเดินทางที่กำลังยืนอยู่บนสองทางแยก

 

และชวนให้เราจินตนาการถึงชีวิตของเราทั้งสองแบบว่าจะเป็นยังไงและจบลงตรงไหน 

 

ที่มา :

Robert Frost: “The Road Not Taken” 

The Road Not Taken เส้นทางนี้ที่ไม่เลือก…

The Road Not Taken ทางที่ไม่ถูกเลือก

When Happiness Doesn’t Last

Hedonic Treadmill

Visualization: Definition, Benefits, and Techniques